หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมครม.อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ โดย ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีสาระสำคัญกำหนดลักษณะความผิดฐานใช้แรงงานบังคับ ให้หมายถึงผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้ทำงานหรือบริการโดมิได้สมัครใจให้กับตนเองหรือบุคคลที่สาม โดยการข่มขู่ ขู่เข็ญว่าจะลงโทษโดยมิชอบ ใช้กำลังประทุษร้าย ยึดเอกสารสำคัญประจำตัวของบุคคลนั้นไว้ นำภาระหนี้ของบุคคลนั้นหรือบุคคลอื่นมาเป็นสิ่งผูกมัดโดยมิชอบ หรือด้วยวิธีอื่นใดโดยมิชอบ ที่ทำให้บุคคลนั้นไม่สามารถขัดขืนได้ ถ้าการกระทำแบบนั้น ไม่เป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำความผิดฐานใช้แรงงานบังคับ นอกจากนี้กำหนดให้จัดตั้งกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับเพื่อช่วยเหลือและเยียวยาผู้เสียหายจากการกระทำความผิด
โดยร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้กำหนดให้มีคณะกรรมการอีกสองคณะคือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ มาตรการการป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ และคณะกรรมการกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ โดยกำหนดมาตรการช่วยเหลือและคุ้มครองสวัสดิการของผู้ที่ได้รับความเสียหาย กำหนดบทลงโทษที่เหมาะสมกับการกระทำความผิดฐานใช้แรงงานบังคับ โดยจะเพิ่มกรณีกระทำผิดต่อผู้เสียหายที่เป็นเด็ก ผู้สูงอายุ หญิงมีครรภ์ ผู้พิการ บุคคลไม่สมประกอบ และกระทำผิดต่อผู้เสียหายที่ได้รับอันตรายสาหัส หรือเป็นโรคร้ายแรงที่ส่งผลถึงชีวิตและถึงแก่ความตาย