รอยเตอร์ รายงานว่า นายบาห์รัม กาเซมี โฆษกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของทางการอิหร่านว่า ความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลซาอุดิอาระเบียกับสหรัฐฯ มุ่งจะทำลายเสถียรภาพของภูมิภาคตะวันออกกลาง เขาตั้งข้อสังเกตว่าปัญหานี้จะทำให้วิกฤติต่างๆในตะวันออกกลาง ยิ่งจะหาทางแก้ไขได้ลำบากยิ่งขึ้น อิหร่าน ยังเข้าไปมีบทบาทเรื่องการแก้ไขปัญหาต่างๆในภูมิภาคตะวันออกกลางต่อไป ถึงแม้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะกดดันอิหร่านให้จำกัดการเข้าไปมีบทบาทในเรื่องนี้ให้น้อยลง
ก่อนหน้านี้ นายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่อยู่ระหว่างการเยือนหลายประเทศในตะวันออกกลาง และเข้าเฝ้ากษัติย์ซัลมานแห่งซาอุดิอาระเบียในกรุงริยาดห์เมื่อวานนี้ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯรู้สึกกังวลกรณีอิหร่านเข้าไปแทรกแซงกับปัญหาภายในของหลายประเทศในตะวันออกกลางและการเคลื่อนไหวในอีกหลายๆเรื่อง อาจจะกระทบเสถียรภาพและความมั่นคงของตะวันออกกลาง นอกจากนี้ นายพอมเพโอ ย้ำกับรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นคู่ปรปักษ์ประจำภูมิภาคตะวันออกกลางของอิหร่านว่า สหรัฐฯจะถอนตัวออกจากข้อตลงนิวเคลียร์อิหร่าน ถ้าหากผู้ลงนามชาวยุโรป คือ ฝรั่งเศส เยอรมนีและอังกฤษ ไม่แก้ไขปรับปรุงเนื้อหาของข้อตกลงเดิม
สหรัฐฯและอีก 5 ชาติมหาอำนาจของโลกคือฝรั่งเศส เยอรมนี อังกฤษ รัสเซียและจีน ร่วมลงนามกับอิหร่านเมื่อปี 2558 แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กำหนดให้ประเทศผู้ลงนามชาวยุโรป ดำเนินการปรับปรุงเนื้อหาของข้อตกลงนิวเคลียร์ใหม่ให้เสร็จภายในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ ไม่เช่นนั้น สหรัฐฯจะถอนตัวออกจากข้อตกลงและจะเริ่มคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้ง หลังระงับมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2559
ทีมต่างประเทศ
CR:File Photo Reuters