*ประเมินสถานการณ์ก่อน ยกเลิกกฎอัยการศึก/ตั้งสรรเสริญทำงานร่วมอัยการสูงสุดคดีจำนำข้าว*

สรุปข่าว 19.35 น.

+++การคงกฎอัยการศึก ซึ่งในการประชุมหน่วยขึ้นตรงของกองทัพบกวันนี้  พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า การประกาศกฎอัยการศึกไม่ได้ส่งผลกระทบกับประชาชน แต่อาจมีผลต่อกลุ่มคนที่ต้องการจะกระทำผิด ยอมรับว่าภาพลักษณ์ และชื่อของกฎอัยการศึกจะส่งผลกระทบกับมุมมองในส่วนของต่างประเทศอยู่  ซึ่งการยกเลิกกฎอัยการศึกอยู่ระหว่างประเมินผลของผู้ปฏิบัติงานในแต่ละพื้นที่ แต่ในช่วง 2 เดือนนี้จะพยายามใช้กฎหมายปกติในการดำเนินการ ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้าน คสช. ในทางปฏิบัติยังไม่อยู่ในระดับเกินกว่าที่ คสช.ได้กำหนดไว้ ยังคงยึดนโยบายการทำความเข้าใจเหมือนเช่นที่ผ่านมา

+++ทีมรักษาความปลอดภัยของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) เข้าตรวจความเรียบร้อยภายในตึกสันติไมตรีทั้งหลังในและหลังนอก หลังจากได้รับการประสานจากคณะทำงานของนายกรัฐมนตรี ให้เปลี่ยนแปลงสถานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก จากเดิมที่เตรียมห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ไปใช้ตึกสันติไมตรี หลังใน เพราะยังมีปัญหาเรื่องกลิ่นสี และเฟอร์นิเจอร์ที่ซ่อมแซมใหม่  รวมถึงต้องตรวจสอบระบบการรักษาความปลอดภัย และระบบอุปกรณ์ภาพและเสียงที่ใช้สำหรับการประชุม อีกครั้ง  เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล ประจำทำเนียบรัฐมนตรี ได้ประสานขอความร่วมมือให้สื่อมวลชนสังเกตการณ์ได้เพียงด้านนอกของตัวอาคารเท่านั้น และจะเปิดให้เข้าได้เฉพาะช่วงเวลาที่มีการแถลงข่าวเท่านั้น

+++นายอำพน กิตติอำพนเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมในวันที่ 9 ก.ย.เวลา 09.30 น. ยังไม่ใช่เป็นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการแต่เป็นการเชิญรัฐมนตรี มารับฟังการชี้แจงการดำเนินการบริหารราชการแผ่นดินของคณะรักษาความสงบแห่ง ชาติ (คสช.) ด้าน ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ขอยุติการนำเสนอบทความพิเศษข้อความตลอดจนรูปภาพที่ได้นำเสนอลง เป็นการชั่วคราวอย่างไม่มีกำหนด

+++นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนักวิชาการคณะนิติราษฎร์ ยืนยันจะสู้คดีที่อัยการยื่นฟ้องฐานฝ่าฝืนไม่มารายงานตัวตามคำสั่งเรียกบุคคลให้มารายงานตัว ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยจะมีการนัดตรวจพยานหลักฐานฝ่ายโจทก์อีกครั้งในวันที่ 24 พ.ย. 2557

+++ส่วนกรณี นายธานัท ธนวัชรนนท์ หรือ ทอม ดันดี ต้องคดี ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเรียกบุคคลให้มารายงานตัวของ คสช. ได้รับสารภาพต่อศาล ศาลจึงมีคำพิพากษาจำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท แต่ศาลให้รอลงอาญา เพราะไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน แต่ยังไม่ได้ปล่อยตัว เนื่องจากยังมีคดีปราศรัยเข้าข่ายหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องนำตัวไปดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป

+++การตั้งคณะทำงานร่วมระหว่าง ป.ป.ช.กับอัยการสูงสุด เพื่อหาข้อสรุปสำนวนโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวถึง ว่า ในการประชุม ป.ป.ช.วันพรุ่งนี้  จะเสนอตั้ง นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ฝ่าย ป.ป.ช. จำนวน 10 คน เพื่อไปหาข้อสรุปร่วมกับคณะทำงานของอัยการสูงสุด ที่มีรองอัยการสูงสุด เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ส่วน ผลงานวิจัยของทีดีอาร์ไอ เรื่องโครงการรับจำนำข้าวที่ ป.ป.ช. นำมาประกอบใช้การชี้มูลความผิด เป็นเพียงหลักฐานส่วนหนึ่ง ที่ถูกอ้างอิงถึงเท่านั้น ไม่ใช่หลักฐานทั้งหมด และยังมีหลักฐานในส่วนที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ที่ทักท้วงเรื่องจำนำข้าวด้วย

+++หลังมีข้อมูล เปรียบเทียบดัชนีคุณภาพการศึกษาของของประเทศสมาชิกทั้งหมด 144 ประเทศทั่วโลก โดย เวิร์ลด อีโคโนมิค ฟอรั่ม (World Economic Forum-WEF) สรุปว่าขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยอยู่เป็นอันดับที่ 31 ของโลก และเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน โดยคุณภาพของระดับอุดมศึกษา ของไทยอยู่อันดับ 8 ของอาเซียน เป็นอันดับที่ 78 ของโลก ตามหลังสปป.ลาว ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 6 ของอาเซียน และ อันดับที่ 57 ของโลก ส่วนประเทศ กัมพูชา อยู่ในอันดับที่ 7 ของอาเซียน อันดับ ที่ 76 ของโลก  รศ.ดร.ประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า ในฐานะรักษาการประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) กล่าวว่า ผลการจัดอันดับที่ออกมาถือเป็นประเด็นใหญ่ที่ต้องเร่งแก้ไขปัญหาในภาพรวม ในทุกระดับ ยอมรับว่าตัวเลขที่ออกมาค่อนข้างน่าเกลียด ทั้งที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้รับงบประมาณมากที่สุด แต่คุณภาพการศึกษากลับแย่ลงเรื่อยๆ ในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ คงต้องหารือเรื่องดังกล่าว  โดยจะหารือเฉพาะปัญหาของอุดมศึกษา +++นายธรรมศักดิ์ ชนะ รองอธิบดีกรมที่ดิน ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลางจ.ภูเก็ต ยืนยันการออกโฉนดที่ดินในอุทยานแห่งชาติสิรินาถ โดยเฉพาะที่ดินของบริษัท ลายัน ภูเก็ต จำกัด ที่ออกโฉนดในพื้นที่น้ำทะเล 70เปอร์เซ็นต์นั้นว่า ที่ดินดังกล่าวได้ออก น.ส.3 ก. เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2523 ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีการประกาศเขตอุทยานฯ ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2538 ก็ได้มีการยื่นคำขอออกโฉนด โดยจากการตรวจสอบพบว่า ที่ดินดังกล่าวมีการทำประโยชน์เป็นสวนมะพร้าวมีการรับรองแนวเขตครบทุกด้าน ไม่รุกล้ำแม่น้ำ ลำคลอง ทะเล และเห็นว่า การออกโฉนดที่ดินดังกล่าวชอบด้วยระเบียบและกฎหมายไม่มีการออกโฉนดรุกล้ำพื้นที่ทะเลแต่อย่างใด

+++นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กสทช. ยืนยันว่าจะแจกคูปองดิจิตอลทีวี 690 บาท ได้ตามกำหนดเดิม 15 ตุลาคม โดยจะแจกให้เฉพาะบ้านที่มีเจ้าบ้านอยู่อาศัยเท่านั้น จำนวน 14.1ล้านครัวเรือน  ภายในคูปองจะระบุชื่อเลขประจำบ้าน 11หลัก เลขที่บ้าน และรหัสคูปอง ซึ่งเมื่อประชาชนได้รับคูปองก็สามารถที่จะนำไปแลกอุปกรณ์ได้ทางร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการโดยเตรียมคูปอง , บัตรประชาชน และทะเบียนของเจ้าบ้าน  เมื่อประชาชนนำไปแลกทางร้านค้าก็จะมีสติ๊กเกอร์เพื่อยืนยันโดยติดที่เอกสารคูปองที่แลก และบนสินค้า เพื่อเป็นการป้องกันการทุจริตและสามารถตรวจสอบได้

ต่างประเทศ

+++พระตำหนักคลาเรนซ์ เฮ้าส์ของอังกฤษ แถลงว่า เจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ พร้อมด้วยดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ พระชายา มีความยินดี ที่จะแถลงให้ประชาชนทราบว่า ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ทรงพระครรภ์พระทายาทองค์ที่สอง แถลงการณ์ณะบุว่า สมเด็จพระราชินีและสมาชิกตระกูลทั้งสองต่างรู้สึกปีติยินดีกับข่าวนี้ ดัชเชสอาการแพ้ท้องมากในเวลาเช้าและต้องเข้ารับการดูแลเป็นพิเศษจากทีมแพทย์ที่พระราชวังเคนซิงตัน โดยเฉพาะการรักษาระดับน้ำในร่างกายให้เหมาะสม การถวายพระโอสถ(ยา)และโภชนาการ ด้านนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ส่งข้อความทางทวิตเตอร์ว่ารู้สึกยินดีกับข่าวดีๆที่ว่าทั้งสองพระองค์จะมีพระทายาทอีกองค์หนึ่ง

+++ทางการฮ่องกงสั่งให้ร้านค้าทุกแห่งหยุดขายอาหารทอด และอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำมัน อาทิ ขนมปังสับปะรด เป็นการชั่วคราว หลังเกิดกรณีทางการไต้หวันบุกทลายโรงงานฉางกวน ซึ่งลักลอบนำน้ำมันสำหรับปรุงอาหารที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ ยึดน้ำมันต้องสงสัยเป็นน้ำมันเก่า 243 ตัน พร้อมจับกุมเจ้าของโรงงานเมื่อวันอาทิตย์ เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า นำน้ำมันสำหรับปรุงอาหารที่ผ่านการใช้งานแล้วมาผสมกับน้ำมันหมู แล้วส่งขายให้กับร้านอาหารทั่วเกาะไต้หวันอย่างน้อย 900 แห่ง รวมถึงส่งออกไปจำหน่ายในอีกหลายประเทศ  รวมถึง เกาะฮ่องกงด้วย ครั้งนี้ ถือเป็นวิกฤติอาหารครั้งที่ 2 ในรอบปีนี้ของฮ่องกง หลังเมื่อเดือนก.ค. แมคโดนัลด์สั่งระงับจำหน่ายอาหารเมนุไก่ทุกชนิดชั่วคราว เนื่องจากเกิดกรณีโรงงานแห่งหนึ่งในนครเซี่ยงไฮ้ของจีนแอบนำเนื้อไก่หมดอายุมาจำหน่าย

หุ้นไทยและต่างประเทศ

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 1,579.73 จุด ลดลง 3.54 จุด

+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดปรับตัวขึ้น 36.43 จุด ที่ 15,705.11 จุด

+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดฮ่องกง ปิดตลาดลดลง 49.70 จุด ที่ 25,190.45 จุด