พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงานสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ณ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงจังหวัดนครพนม และลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจในการดำเนินงานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดหมู่บ้าน/ชุมชนเข้มแข็ง บ้านหนาด หมู่ที่ 1 และ หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม
เวลา 10.00 น. ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ณ กองบัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม เพื่อพบปะ/ให้กำลังใจกำลังพลที่มีผลการดำเนินงานด้านการสกัดกั้นยาเสพติดดีเด่น พร้อมรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์และผลการดำเนินงาน และมอบนโยบายการดำเนินงานสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดบริเวณชายแดนให้กับหน่วยปฏิบัติงานยาเสพติดในพื้นที่ โดยมีนายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. พลเรือตรี พิสิษฐ์ทองดีเลิศ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง พลตรีทนงศักดิ์ กิตติศัพท์ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พลตำรวจตรีฉลอง ภาคย์ภิญโญ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พลตำรวจตรีสุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ร่วมรับการตรวจเยี่ยม
พลอากาศเอกประจิน กล่าวว่า การดำเนินงานในปี 2561 รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างต่อเนื่องและจริงจัง กำหนดให้เป็นปีแห่งการปราบปรามและต่อต้านยาเสพติด มีการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ตั้งแต่แหล่งผลิตในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ พื้นที่ชายแดน พื้นที่ตอนใน โดยการแก้ไขปัญหาตามสภาพปัญหาของแต่ละพื้นที่ ภายใต้แผนประชารัฐร่วมใจ ปลอดภัยยาเสพติด ปี 2561 และแผนป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดเร่งด่วน ปี 2561 ใน 4 มาตรการ คือ ป้องกัน ปราบปราม บำบัดรักษา และบริหารจัดการ ขอให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถตามบทบาทภารกิจ และเน้นย้ำการดำเนินงานที่สำคัญ คือ 1. ให้ทุกหน่วยงานเพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินงาน มีการประสานความร่วมมือบูรณาการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะด้านการข่าว 2. ให้หน่วยงานในระดับพื้นที่จัดทำแผนการสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ รองรับแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดเร่งด่วน ปี 2561 3. ให้มีการเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจตราและเฝ้าระวังการลักลอบนำยาเสพติดเข้าสู่ประเทศ เนื่องจากมีแม่น้ำโขงเป็นเขตแดนระหว่างประเทศ ทำให้การเดินทางข้ามไปมาระหว่างกันได้ง่าย มีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามายังประเทศไทยได้ 4. ให้เพิ่มความเข้มข้นการเฝ้าระวังการลักลอบลำเลียงยาเสพติดตามจุดตรวจ/จุดสกัด ในเส้นทางหลักและรอง จุดเสี่ยงต่างๆ 5. ขยายผลการจับกุม เมื่อมีการจับกุมผู้ค้า ผู้ลำเลียงยาเสพติดได้ ให้มีการสอบสวนขยายผลไปถึงนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง และดำเนินการตรวจยึดทรัพย์สิน 6. ต้องสร้างความร่วมมือกับประชาชน การสร้างเครือข่ายภาคประชาชนเพื่อช่วยเหลือด้านการข่าวยาเสพติด โดยเฉพาะบริเวณชายแดน สร้างการรับรู้ ให้เฝ้าระวังและแจ้งเบาะแสการลักลอบลำเลียงยาเสพติด และ 7. เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับหมู่บ้านคู่ขนานชายแดนระหว่างประเทศ เพื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน” เน้นย้ำการปฏิบัติงาน ขอให้ทุกหน่วยงานใช้ความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน
เวลา13.00 น. ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจในการดำเนินงานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดหมู่บ้าน/ชุมชนเข้มแข็ง บ้านหนาดหมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 2 ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมืองนครพนม โดยมีนายสมชาย วิทย์ดำรง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. พลตำรวจตรี สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม นายเอกราช มณีกรรณ์ นายอำเภอเมืองนครพนม และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า จุดแตกหักของการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด อยู่ที่การสร้าง ความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับหมู่บ้าน/ชุมชน ต้องบูรณาการการทำงานของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน ร่วมมือกันป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในลักษณะ ประชารัฐ โดยการดำเนินการต้องอาศัยผู้นำ แกนนำ กำนัน และผู้ใหญ่บ้านที่เข้มแข็ง ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายภาคประชาชนเพื่อช่วยเหลือด้านการข่าวยาเสพติด และขอให้ภาคประชาชนได้เข้าร่วมเป็นเครือข่ายเฝ้าระวังและป้องกันยาเสพติดร่วมกับภาครัฐ เพื่อป้องกันปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน ไม่ส่งผลกระทบต่อลูกหลานที่เป็นกำลังสำคัญของชาติต่อไป
CR:ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ป.ป.ส.