กรณีที่นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เดินทางข้ามพรมแดนพบหารือกับประธานาธิบดีมูน แจอิน ผู้นำเกาหลีใต้ ที่หมู่บ้านปันมุมจอม เขตปลอดทหาร ซึ่งเป็นการพบหารือโดยตรงเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี
รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์ประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า แม้อดีตผู้นำของทั้ง 2 ประเทศจะเคยพบหารือกันมาแล้ว 2 ครั้งแต่การพบหารือกันของผู้นำคนปัจจุบันในเวลานี้มีความสำคัญมาก และมีการตั้งความหวังไว้สูงมาก เพราะยังมีการหารือเกี่ยวกับการยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์ และการสร้างสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งช่วยให้ความตึงเครียดต่างๆ ลดลง ทั้งทำให้เกิดการคาดหวังว่าจะมีการรวมประเทศได้สำเร็จ แม้จะยอมรับว่า การทำงานในประเด็นนี้จะเป็นเรื่องยาก แต่หากทำได้จริง ก็จะทำให้เกาหลีกลายเป็นประเทศมหาอำนาจ และจะท้าทายอำนาจญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก แต่ในเวลาเดียวกันจะส่งผลดีกับไทยและอาเชียน ทั้งกล่าวด้วยว่า ผู้นำเกาหลีเหนือเป็นนักการทูตที่ฉลาด มีการเตรียมการมาเป็นอย่างดี
รศ.ดร.ปณิธานกล่าวด้วยว่า ยังต้องติดตามผลต่อเนื่องของการประชุมสุดยอดในวันนี้ต่อไป รวมถึงการที่ผู้นำเกาหลีเหนือมีกำหนดหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งทั้งหมดนี้ ถือว่าเป็นสัญญาณในเชิงบวกต่อสันติภาพโลก
...
จส.100