ข่าวต่างประเทศวันนี้ ติดตามการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ ระหว่างนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ และประธานาธิบดีมูน แจอิน ของเกาหลีใต้ ที่หมู่บ้านปันมุมจอม ในเขตปลอดทหาร (DMZ) ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดนในเวลา 09.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นหรือประมาณ 7.30 น.ตามเวลาในไทย โดยนายคิมจะเป็นผู้นำเกาหลีเหนือคนแรกในรอบ 65 ปี นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเกาหลีที่เดินทางเข้ามาในฝั่งเกาหลีใต้
การประชุมระหว่างผู้นำเกาหลีครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 โดยครั้งแรกคือในปี 2543 และครั้งที่ 2 คือ 2550 ในสมัยของนายคิม จองอิล ซึ่งมีนโยบายสำคัญคือการสร้างสันติภาพถาวรในคาบสมุทรเกาหลี ส่วนการประชุมในครั้งนี้นักวิเคราะห์ เห็นว่า ยังเร็วเกินไปที่จะคาดหวังความสำเร็จ เนื่องจากเกาหลีเหนือมีเทคโนโลยีนิวเคลียร์ที่ล้ำหน้าไปกว่าเดิมมาก
การประชุมในครั้งนี้ยังมีกิจกรรมที่จัดขึ้นอีกหลายกิจกรรม เพื่อสนับสนุนความร่วมมือระหว่างประเทศ และการนำไปสู่การกำจัดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ตั้งแต่การปลูกต้นสนซึ่งแสดงถึงสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในบริเวณเขตปลอดทหาร ไปจนถึงการจัดงานเลี้ยงในช่วงเย็น และชมวีดิทัศน์เกี่ยวกับสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ทรงเรียกร้องให้การเจรจาในครั้งนี้ดำเนินไปอย่างโปร่งใสและนำไปสู่สันติภาพในภูมิภาคและทั่วโลก และทรงเรียกร้องให้ผู้นำทั่วโลกช่วยส่งเสริมการพบหารือ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ เปิดเผยว่า กำลังพิจารณาวันเวลา 4 ตัวเลือกและสถานที่ 5 แห่ง ที่จะประชุมหารือกับนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ แต่ก็ยอมรับด้วยว่ายังไม่ชัดเจนว่าจะมีการพบปะหารือเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ทั้งกล่าวด้วยว่า การที่นายไมค์ ปอมเปโอ ผู้อำนวยการซีไอเอ เดินทางลับไปพบปะและเจรจากับผู้นำเกาหลีเหนือ เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนหน้านั้นไม่ได้เป็นการวางแผนไว้ล่วงหน้า
ด้านทำเนียบขาวสหรัฐฯ เพิ่มเติมว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ อาจพบหารือกับประธานาธิบดีมูน แห่งเกาหลีใต้ก่อนที่จะพบกับผู้นำเกาหลีเหนือ
ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังมีกำหนดเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรในวันที่ 13 กรกฏาคมนี้ ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ แต่ไม่เปิดเผยหัวข้อของการหารือ รวมถึงระยะเวลาที่จะอยู่ในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นการก้าวข้ามธรรมเนียมปฏิบัติหลายประการ ตั้งแต่การเดินทางที่มีขึ้นในเวลานานกว่า 1 ปีหลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้ารับตำแหน่ง จากที่มักจะจัดให้มีการเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการเป็นประเทศแรกๆ ในฐานะที่เป็นมิตรประเทศใกล้ชิด
สหภาพยุโรป หรือ อียู เตรียมพิจารณาขยายเวลามาตรการคว่ำบาตรทางอาวุธต่อเมียนมาต่อไปอีก 1 ปี จากกรณีที่มีการใช้ความรุนแรงในรัฐยะไข่ ซึ่งมาตรการเดิมมีกำหนดสิ้นสุดในสิ้นเดือนเมษายนนี้ ซึ่งนอกจากจะขยายเวลาแล้ว ยังมีมาตรการเพิ่มเติมครอบคลุมเรื่องความร่วมมือด้านการฝึกซ้อมทางทหาร และมาตรการเฉพาะเจาะจงต่อตัวบุคคลในกองทัพด้วย
อียู ระบุว่า รัฐบาลเมียนมามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงและเป็นระบบ ทำให้ชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่เกือบ 700,000 คน ต้องอพยพข้ามพรมแดนไปยังบังกลาเทศ
นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ มอบให้นางคริสติน ชราเนอร์ บัวร์เกอเนอร์ เอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำเยอรมนี เป็นตัวแทนพิเศษของสหประชาชาติประจำเมียนมาคนใหม่ โดยจะมีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการในช่วงสุดสัปดาห์นี้
ทางการอินโดนีเซียยึดเรือประมงสัญชาติเวียดนาม 2 ลำ ที่แล่นเข้าใกล้เกาะนาทูนาของอินโดนีเซีย พร้อมควบคุมตัวลูกเรือรวม 21 คน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามสกัดเรือประมงต่างชาติที่รุกล้ำน่านน้ำ โดยเมื่อปีที่แล้วอินโดนีเซียยึดเรือเวียดนาม 11 ลำ และนับตั้งแต่ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด รับตำแหน่งเมื่อปี 2557 อินโดนีเซียจมเรือประมงต่างชาติผิดกฎหมายไปแล้วราว 200 ลำ
ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจในยูโรโซนชะลอตัวลง ธนาคารกลางยุโรป หรือ อีซีบี จะไม่มีการออกนโยบายใดๆ ในการประชุมสัปดาห์นี้ ทั้งอาจยุติโครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี)
ราคาน้ำมันขยับขึ้นเล็กน้อย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 14 เซ็นต์ ปิดที่ 68.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 74 เซ็นต์ ปิดที่ 74.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 238.51 จุด หรือร้อยละ 0.99 ปิดที่ 24,322.34 จุด
เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 27.54 จุด หรือร้อยละ 1.04 ปิดที่ 2,666.94 จุด
แนสแดค เพิ่มขึ้น 114.94 จุด หรือร้อยละ 1.64 ปิดที่ 7,118.68 จุด
…