รอยเตอร์ รายงานอ้างนายแจน อีเจแลนด์ ที่ปรึกษาระดับสูงของสหประชาชาติ(ยูเอ็น)ในเรื่องซีเรียว่า กลุ่มผู้บริจาคเงินระดับนานาชาติ นำโดยรัฐบาลอังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส ตัวแทนรัฐบาลจากอีก 86 ประเทศ องค์กรการกุศลและสถาบันการเงินระดับภูมิภาคจากทั่วโลก ซึ่งอยู่ระหว่างการประชุมกันในกรุงบรัสเซลส์ เบลเยียมในช่วงนี้ สามารถระดมเงินบริจาคฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือพลเมืองซีเรียจำนวน 4,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ต่ำกว่ายอดบริจาคจำนวน 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเมื่อปีที่แล้ว หลังรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ไม่ร่วมสมทบเงินบริจาคช่วยเหลือซีเรียในปีนี้ อีกทั้งตั้งข้อสังเกตว่า สหรัฐฯไม่ได้รับประโยชน์สมกับที่บริจาคเงินช่วยเหลือผู้อพยพจำนวนมากในแต่ละปี
รัฐบาลสหรัฐฯบริจาคเงินช่วยเหลือผู้อพยพซีเรียและประเทศอื่นๆในตะวันออกกลางกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี ด้านองค์กรการกุศลนานาชาติหลายแห่ง เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับสงครามซีเรียให้ช่วยประสานให้คู่ขัดแย้งของซีเรียให้หันหน้าพูดคุยกันเพื่อเกิดสันติสุขในซีเรียโดยเร็ว ก่อนที่กองทัพซีเรียและพันธมิตรคือรัสเซียและอิหร่าน จะเริ่มปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อยึดคืนพื้นที่ในความควบคุมของฝ่ายกบฏในเมืองอิดลิบทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย พร้อมทั้งเตือนว่า ปัญหาวิกฤติด้านมนุษยธรรมจากปฏิบัติการยึดคืนพื้นที่จากฝ่ายกบฏในครั้งนี้อาจจะรุนแรงกว่าในช่วงปฏิบัติการยึดคืนเมืองอะเล็ปโปจากฝ่ายกบฏเมื่อปีที่แล้ว พร้อมทั้งระบุว่าเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ ถ้าหากว่าการสู้รบเริ่มประชิดเข้าไปใกล้ค่ายผู้อพยพในเมืองอิดลิบ ดังนั้น ทุกฝ่ายจึงควรเริ่มพูดคุยกันเพื่อไม่ให้พลเรือน 2.5 ล้านคนในเมืองอิดลิบได้รับผลกระทบจากปฏิบัติการยึดคืนพื้นที่ดังกล่าว
ทีมต่างประเทศ
CR:www.euractiv.com