การเข้าปรับปรุงภูมิทัศน์ ในพื้นที่ป้อมมหากาฬ ให้เป็นสวนสาธารณะ หลังเริ่มมีการรื้อถอนบ้านเรือน และให้ผู้อยู่อาศัยย้ายออก โดยพลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจความเรียบร้อย พร้อมกล่าวว่า บริเวณป้อมมหากาฬ ในพื้นที่ 4 ไร่ 300 ตารางวา ประชาชนได้ขนย้ายข้าวของออกเกือบหมดแล้ว จากบ้านเรือนในพื้นที่ 56 หลังคาเรือนเหลือเพียง 5 หลังคาเรือนที่อยู่ระหว่างการรื้อย้าย คาดว่า ภายในวันอาทิตย์ที่ 29 เมษายนนี้ จะรื้อออกจนหมด หลังจากนั้นกรุงเทพฯ จะเข้ามาปรับพื้นผิว ติดตั้งเสาไฟ ไฟส่องสว่าง ระบบประปา ห้องน้ำสาธารณะ ขยายทางเท้าริมคลอง เพิ่มอีกประมาณ 1 เมตร พร้อมทำราวกัน ส่วนต้นไม้ใหญ่ ยืนยันจะไม่มีการตัดออก แต่จะตัดแต่งกิ่งตามความเหมาะสม พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจคอยดูแลในพื้นที่เพื่อความเรียบร้อย ป้องกันคนเร่ร่อนมาพักอาศัย การปรับปรุงภูมิทัศน์ จะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะการปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบ จะเริ่มดำเนินการหลังจากมีผู้ย้ายออกทั้งหมด ใช้ระยะเวลา 1 เดือน ภายในเดือน พ.ค. ระยะต่อมา ก็จะจัดพื้นที่เพื่อให้ประชาชนและหน่วยงานได้ใช้ชั่วคราว เช่น เป็นพื้นที่การออกกำลังกาย ส่วนแผนและรูปแบบการปรับปรุงอย่างถาวร จำเป็นต้องหารือกับกรมศิลปากร เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน
ขณะที่ การอนุรักษ์บ้านทรงไทยที่มีอายุเก่าแก่ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่าเป็นสิทธิ์ของเจ้าของบ้านที่มีความประสงค์ขอรื้อไป และไม่ประสงค์จะอนุรักษ์ไว้ ในพื้นที่ป้อมจึงไม่มีบ้านที่พักอาศัยอยู่ แม้อยากจะอนุรักษ์ไว้ 3-4 หลัง แต่วัสดุก็ได้ผุพังไป นอกจากนี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยังขอบคุณประชาชนผู้อยู่อาศัยที่เข้าใจเจตนารมณ์ของกรุงเทพฯ ที่ต้องการทำสวนสาธารณะ ให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน และยังได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้อยู่อาศัยภายในป้อมมหากาฬ หลังได้มีการพูดคุยกันตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปี
ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม