นายโรเบอร์โต อเซเวโด ผอ.องค์การการค้าโลก หรือ WTO แถลงในระหว่างการประชุมกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF แสดงความกังวลว่า ปัญหาพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนสามารถทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหยุดชะงัก เป็นภัยคุกคามต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และเป็นปัจจัยเสี่ยงส่งผลกระทบต่องานหลายประเภท ที่สำคัญคือ ผลกระทบส่วนใหญ่จะตกอยู่ที่ประเทศยากจน ซึ่งจะได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด จากความไม่แน่นอนของการเติบโตทางเศรษฐกิจและการค้าโลก จึงใช้โอกาสนี้กระตุ้นประเทศต่างๆ ใช้ WTO เป็นเวทีเจรจาแก้ไขปัญหาข้อพิพาท เพื่อป้องกันสถานการณ์ตึงเครียดลุกลาม WTO น่าจะเป็นเวทีที่มีบทบาทเหมาะสม แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จะดูถูกองค์กรว่าไม่มีความเป็นธรรมกับสหรัฐฯ แต่สหรัฐฯ ก็ได้ยื่นคำร้องกรณีพิพาทกับ WTO ในหลายกรณี เช่น กรณีจีน ขโมยทรัพย์สินทางปัญญา
ขณะที่ นายบรูโน เลอ แมร์ รมว.เศรษฐกิจฝรั่งเศส วิจารณ์การตอบโต้จีนของสหรัฐฯ ว่า ไร้ประโยชน์และไม่มีจุดหมาย ทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงต่อสงครามการค้าและระเบียบพหุภาคี โดยนายเลอ แมร์ ชี้ว่า แทนที่จะต่อต้านจีน ควรให้คำจำกัดความการค้าระหว่างประเทศใหม่กับจีน และเห็นด้วยที่ว่าจีนต้องเคารพกฎระเบียบต่างๆ เพราะเป็นส่วนสำคัญต่อระบบการค้าโลก
ทั้งนี้ ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน กลายเป็นประเด็นบดบังวาระสำคัญของการประชุมเจ้าหน้าที่การเงินระดับโลก และการประชุม G20 ก็พยายามหลีกเลี่ยงประเด็นนี้ โดยหลายฝ่าย มองว่า แทนที่แต่ละประเทศจะดำเนินมาตรการตอบโต้การขึ้นภาษีแต่เพียงฝ่ายเดียว ควรใช้วิธีเปิดช่องทางเจรจาเพื่อแก้ปัญหาพิพาทระหว่างกัน
ทีมต่างประเทศ