กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานสิทธิมนุษยชนโลกประจำปี โดยระบุว่า รัฐบาลบางประเทศไม่สามารถรักษาความมั่นคงและสนองตอบความต้องการพื้นฐานของประชาชนได้ ขณะที่บางประเทศ ยังคงจำกัดเสรีภาพการแสดงออกและการชุมนุมโดยสันติ และกระทำการอันรุนแรงต่อชนกลุ่มน้อย โดยยกตัวอย่างจีน รัสเซีย อิหร่าน และเกาหลีเหนือว่า ละเมิดสิทธิมนุษยชนภายในประเทศแบบรายวัน จึงถือเป็นประเทศที่มีกองกำลังไร้เสถียรภาพ การละเมิดสิทธิของประเทศดังกล่าวเท่ากับเป็นภัยคุกคามโลกด้วย
ภายหลังการเผยแพร่รายงาน ซึ่งในปีนี้ให้ความสำคัญกับการปราบปรามที่นำโดยรัฐบาลอีกครั้ง องค์กรพิทักษ์สิทธิมนุษยชน “ฮิวแมน ไรท์ซ วอช” ได้ออกมาวิจารณ์การเปลี่ยนแปลงทิศทางของรายงานฉบับนี้อย่างรวดเร็ว โดยแสดงความเสียใจที่รายงานฉบับนี้ตัดเนื้อหาการจำกัดสิทธิทางสังคม โดยเฉพาะสิทธิสตรี แต่กลับมุ่งวิเคราะห์สิทธิทางเพศ สะท้อนให้เห็นความไม่เห็นด้วยของคณะผู้บริหารสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับประเด็นเหล่านี้ ทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความพยายามไม่ให้ความสำคัญกับประเด็นสิทธิมนุษยชนในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ
นายไมเคิล โคแส็ค นักการทูตระดับสูง ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เขียนรายงาน ยอมรับว่า ระเบียบวิธีวิจัยบางส่วนของรายงานฉบับนี้ย้อนกลับไปใช้มาตรฐานเดิม อย่างไรก็ตาม รายงานฉบับนี้เป็นรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกตลอดปีที่แล้ว โดยรวบรวมข้อมูลงานวิจัยจากสถานทูตสหรัฐฯ ทั่วโลกภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามา อดีตผู้นำสหรัฐฯ
ทีมต่างประเทศ
CR:www.ndtv.com.