นายกรัฐมนตรีขออย่าเคลื่อนไหวคดีเงินทอนวัด ให้เป็นไปตามพยานหลักฐาน

17 เมษายน 2561, 15:44น.


ความคืบหน้าการตรวจสอบทุจริตเงินทอนวัด โดยพบว่าเชื่อมโยงถึงพระผู้ใหญ่ในมหาเถระสมาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ในระหว่างการดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง เป็นการพิจารณาตามพยานหลักฐานและจะส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับทราบเพื่อดำเนินการตรวจสอบอีกชั้นหนึ่ง  โดยนายกรัฐมนตรีขอความร่วมมือด้วยว่า อย่าเคลื่อนไหวหากการดำเนินคดีกระทบไปพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ เพราะทั้งหมดเป็นการดำเนินการไปตามพยานหลักฐานทั้งวัตถุพยานและพยานบุคคล เช่นเดียวกับการกระทำความผิดในคดีอื่นๆ จึงต้องช่วยกันให้เกิดความชัดเจน เนื่องจากพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่คนไทยส่วนใหญ่นับถือร้อยละ 90 


ส่วนการประกาศพื้นที่ปลอดภัยในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีการร่วมพูดคุยระหว่างคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขและกลุ่มมาราปาตานีที่จะถูกประกาศในปลายเดือนนี้ นายกรัฐมนตรีระบุว่า ส่วนตัวคาดหวังในการประกาศพื้นที่ปลอดภัยเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป หรือหน่วยงานที่ทำงานในด้านนี้ เพราะไม่มีใครอยากให้งานนี้ไม่สำเร็จ ซึ่งการพูดคุยสันติสุขในครั้งนี้ทางการมาเลเซียเองไม่ได้เข้าร่วมพูดคุย แต่เป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวกและเจ้าของสถานที่เท่านั้น จึงเป็นเรื่องของคณะพูดคุยของรัฐบาลไทยและฝ่ายเห็นต่างมาราปาตานีที่จะนำไปสู่การไว้เนื้อเชื่อใจ ความจริงใจ ซึ่งพื้นที่แรกที่จะทำการประกาศเป็นพื้นที่ปลอดภัยคือ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส 


นายกรัฐมนตรีเชื่อว่า การพูดคุยในครั้งนี้หากกลุ่มผู้เห็นต่างตั้งใจจริงก็จะไม่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว ด้านเจ้าหน้าที่เองก็จะไม่ต้องใช้กำลังหรือปะทะกับกลุ่มเห็นต่าง แต่หากผู้เห็นต่างที่ไม่อยู่ในกระบวนการพูดคุยอาจก่อเหตุการไม่สงบได้ โดยส่วนนี้ตนเองยังไม่ทราบ แต่สิ่งสำคัญคือความร่วมมือจากทุกฝ่ายในพื้นที่ที่กำหนดไว้  ที่ต้องคอยระมัดระวัง รวมไปถึงช่างสังเกต และให้ความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมายในการตรวจตราต่างๆ ซึ่งบางส่วนอาจไม่มีความสอดคล้องกัน อย่างการไม่อยากให้ตั้งด่านหรือตรวจค้น โดยสิ่งเหล่านั้นอาจก่อให้เกิดอันตรายได้


 


ผู้สื่อข่าว : ปิยะธิดา เพชรดี
ข่าวทั้งหมด

X