หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการตั้ง นายสนธยา คุณปลื้ม เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านการเมืองและการบริหารราชการแผ่นดิน โดยยอมรับว่าเป็นผู้เซ็นแต่งตั้งจริง ตามขั้นตอนของส่วนราชการ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอมา โดยเมื่อตรวจสอบไม่มีอะไรเสียหายก็อนุมัติตามขั้นตอน ซึ่งนายสนธยาจะมาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และให้คำปรึกษา ซึ่งตัวเองก็ต้องฟังเพราะจำเป็นต้องมีฝ่ายการเมืองมาให้คำปรึกษาบ้างเพื่อมาทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ตั้งเพื่อประโยชน์ทางการเมือง แต่เพราะวันนี้กำลังเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งจึงจำเป็นต้องมีคนเหล่านี้มาให้คำปรึกษาเนื่องจากส่วนตัวไม่รู้ว่าที่ผ่านมา ฝ่ายการเมืองได้ดำเนินการมอย่างไรบ้าง
ส่วนนายสนธยาจะลาออกจากหัวหน้าพรรคพลังชลหรือไม่ นายกรัฐมนตรีไม่ทราบ นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการท่องเที่ยวและกีฬายังได้เสนอนายอิทธิพล คุณปลื้ม เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีด้วย ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่ได้รังเกียจนักการเมือง ส่วนจะมีการตั้งใครเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่ทราบ และขออย่าไปคิดอะไรล่วงหน้า โดยขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะตั้งใครเพิ่มอีกหรือไม่
ส่วนในวันที่ 18 เมษายนนี้ พรรคเพื่อไทยจะไปตีกอล์ฟและรับประทานอาหารกับตระกูลสระสมทรัพย์ นายกรัฐมนตรี ระบุว่าก็ต้องตรวจสอบว่าผิดกฎหมายอะไรหรือไม่ หรือเคลื่อนไหวอะไร เพราะในคำสั่งเขียนชัดเจนว่าอะไรทำได้ไม่ได้ เตือนให้ระมัดระวังอย่าทำผิดกฎหมาย
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองหลังสงกรานต์ ว่า หลังสงกรานต์รัฐบาลขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันทำให้บ้านเมืองอย่าเกิดความขัดแย้ง เพราะถ้าก่อนการเลือกตั้งยังมีเหตุการณ์ความไม่สงบเรียบร้อย ก็ไม่สามารถทำอะไรต่อได้วันข้างหน้าก็จะวุ่นวายเหมือนเดิมอีก ดังนั้นขอให้เสนอข่าวทั้งสองทางอยากชี้ผิดชี้ถูก และอย่าไปฟังคำพูดจากภายนอกมากนัก ยืนยันรัฐบาลทำตอบสนองทุกกลุ่มทุกฝ่าย สิ่งใดที่เคยทำไม่ได้ แต่รัฐบาลนี้ก็ทำให้จนได้ จึงขออย่าติตังรัฐบาลมากนัก
ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายเอกชัย หงส์กังวาน และ นายโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ นักกิจกรรมทางการเมืองสองคนที่วางแผนจะเดินทางไปทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ที่บ้านของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงมีการใช้กำลังกับนายโชคชัย ทั้งการนั่งทับบนหลังและกดหัวจนมีอาการหูดับชั่วคราวนึงข้าง ว่า ทุกคนทราบดีอยู่ว่าทั้งสองเป็นนักกิจกรรมทางการเมือง ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบด้วยว่าการกระทำกิจกรรมดังกล่าวนั้นถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนผู้อื่นหรือไม่ อยากให้มองทั้งสองด้าน อย่ามองด้านเดียวเพราะจะเป็นการสนับสนุนคนให้ไปสร้างกิจกรรมที่ส่งผลกระทบต่อผู้อื่น ส่งผลต่อการจราจร และ ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ จึงเป็นเรื่องที่ไม่สมควร
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า การวางแผนทำกิจกรรมดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบดีว่าเป็นการทำกิจกรรมที่มีความต้องการสร้างเหตุการณ์ให้เกิดความรุนแรง เพื่อให้สื่อทำข่าว และสื่อสารออกไป ซึ่งหากการตักเตือนกันง่ายๆทุกอย่าก็จบ แล้วปล่อยตัว แต่กลับมีอารมณ์ ขัดขืนเจ้าหน้า พร้อมด่าทอเจ้าหน้าที่ ทำลายข้าวของภายในห้องสอบสวนเสียหาย
ส่วนการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจถือเป็นการกระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นเพราะการขัดขืนต่อเจ้าหน้าที่ พร้อมถามสื่อกลับว่า ถ้าสื่อสามารถทำให้หยุดหรือไม่ และหากเจ้าหน้าที่ทำรุนแรงไปตัวเองก็ขอโทษด้วย
ผู้สื่อข่าว : ปิยะธิดา