รองนายกฯ เผยอียู พอใจไทยแก้ปัญหา IUU แต่ยังไม่ถึงขั้นปลดล็อค

กรณีที่ คณะผู้แทนจากสหภาพยุโรป(อียู) จะเดินทางมาตรวจการประเมินการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU) ของไทย ในระหว่าง 4-15 เม.ย.นี้ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการแต่เบื้องต้นทราบว่าอียู และทุกฝ่าย พึงพอใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลไทย โดยมีความก้าวหน้าในทุกด้าน เช่น การตรวจสอบย้อนกลับ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานในเวลาที่รวดเร็ว ซึ่งเมื่อต้นเดือนมีนาคม ก็ได้มีการปรับระบบการทำงานอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม อียูแสดงความเป็นห่วงถึงกองเรือที่สูญหายออกไปนอกประเทศ ของไทยกว่า 100 ลำ ที่พบหลักฐานไม่ตรงตามจำนวนที่ได้รายงานเข้ามา จึงต้องมีการตรวจสอบอย่างถูกต้องต่อไป ทั้งนี้ การทำประมง ที่จะให้เกิดความยั่งยืนต้องมีเรือที่เหมาะสมกับจำนวนปลารวมไปถึงเครื่องมือในการประกอบอาชีพ เพื่อให้เกิดความสมดุลในน่านน้ำ ยืนยันว่า การเข้ามาบริหารจัดการของรัฐบาลทำให้การทำประมงของไทยมี ประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินการลงพื้นที่เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ชาวประมง โดยตลอดระยะเวลารัฐบาลได้ทำงานควบคู่ไปกับประชาชน ส่วนความคืบหน้าการขึ้นทะเบียนแรงงานประมง ขณะนี้ ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว กรณีการติดตั้งตู้ ATM เพื่อเบิกจ่ายเงินผ่าน ATM  ให้กับแรงงานประมง ยังอยู่ในกระบวนการ ที่มีขั้นตอนระบุไว้อย่างชัดเจน โดยจากการลงพื้นที่เพื่อรับฟังความคิดเห็นได้ทราบปัญหาที่ประชาชนไม่สามารถเข้าใจการใช้งานของตู้ ATM จึงต้องเร่งลงพื้นที่ เพื่อทำความเข้าใจ ยืนยันว่า การเบิกจ่ายเงินผ่านตู้ ATM  เป็นประโยชน์ต่อชาวประมงและผู้ประกอบการ ขณะที่การปลดล็อคการทำประมง ยังไม่ทราบในเรื่องต่างๆต้องให้คณะกรรมการอียู เดินทางกลับไป แล้วรายงานผลตอบรับกลับมายังประเทศไทย

ส่วนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และวันผู้สูงอายุ รองนายกรัฐมนตรีได้ กล่าวว่า อยากเห็นคนในประเทศกลับบ้านและอยู่กับครอบครัว ดูแล ให้ความรักและความอบอุ่น ในช่วงเวลาที่หยุดยาวถึง 5 วัน  อยากเห็นผู้สูงอายุในสังคมไทยอยู่ในสังคมอย่างมีคุณค่า มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีในสังคม และควรให้ความรักเอื้ออาทรกับผู้สูงอายุ ซึ่งรัฐบาลเองก็ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับผู้สูงอายุเพื่อให้มีคุณภาพ

แฟ้มภาพ

ผู้สื่อข่าว: เกตุกนก ครองคุ้ม