ประธานสอบโกงกองทุนเสมา เตือนคนรับโอนเงินรีบให้ข้อมูล/แกนนำปชป.เผยมีคนรุ่นใหม่พร้อมร่วมงาน/ตร.ชุมพร ตั้งทีมไล่ล่าคนร้ายแทงเศรษฐินี

+++การตรวจสอบปัญหาการทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ของกระทรวงศึกษาธิการ นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีนี้  เปิดเผยถึงเรื่องการตรวจสอบข้อมูลพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตที่พบว่าเป็นข้าราชการระดับ 8 ของ ศธ. ที่พบเพิ่ม 2 คน เกี่ยวข้องกับการรับโอนเงิน ทั้งสองคนรับสารภาพ โดยนำสเตทเมนต์มาแสดง 1 คน แต่ให้การว่าการรับโอนเพราะเป็นการใช้หนี้ โดย 1 คนรับโอนเพียงครั้งเดียว ส่วนอีก 1 คนรับโอน 9 ครั้ง แต่ทั้ง 2 คนก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าเป็นหนี้ที่เกิดจากอะไร

+++นายอรรถพล เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูล พบว่ามีผู้เกี่ยวข้องประเภทรับโอนเพียงครั้งเดียวหลายคน เป็นห่วงว่าถ้าไม่รีบออกมาชี้แจงทำความเข้าใจอาจจะเกิดปัญหา เพราะหากมาอธิบายก็พอจะฟังขึ้น แต่ถ้าเมินเฉยจนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) ตั้งอนุกรรมการไต่สวนแล้วถึงขั้นชี้มูลจะเดือดร้อน โดยเฉพาะคนที่เป็นข้าราชการ การที่มาให้ข้อมูลก่อน อย่างน้อยก็เป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้เจตนา เพราะการรับโอนครั้งเดียว ส่วนใหญ่มีวงเงินเพียง 1-1.5 หมื่นบาท อย่างไรก็ตาม ทุกรายที่มาให้ข้อมูลช่วงที่ผ่านมายอมรับว่ารับโอนเงินจากนางรจนา สินธี หมดทุกราย แต่ไม่มีใครรับว่าเป็นการทุจริต ส่วนใหญ่บอกว่าเป็นการใช้หนี้ แต่ไม่รู้ว่าเป็นหนี้อะไร

+++ส่วนความคืบหน้าการชี้แจงข้อมูลของปลัด ศธ.และอดีตปลัด ศธ. ส่วนใหญ่จะขอขยายเวลาไปเป็นวันที่ 25 เมษายน เพราะปลัด ศธ.แต่ละคนมีการอนุมัติหลายรอบ ดังนั้นอาจต้องใช้เวลาในการค้นหาเอกสาร

+++มาดูอาการป่วยของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่ไม่ได้ร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)และไม่ได้เข้าร่วมรดน้ำสงกรานต์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ได้ลาไปทำภารกิจส่วนตัวที่ต่างประเทศ เข้าใจว่าเดินทางไปเช็กอัพหรือตรวจสุขภาพมากกว่าคงไม่ไปทำบายพาส เพราะพล.อ.ประวิตรได้เคยทำไปแล้ว

+++ขณะที่มีรายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.ประวิตร ได้เดินทางไปตรวจเช็กร่างกาย ทำบายพาสหัวใจที่ประเทศสิงคโปร์ ตามคำแนะนำของแพทย์ และเป็นการพักผ่อน เพราะตั้งแต่ทำบายพาสหัวใจเมื่อกลางปี 2560 พล.อ.ประวิตร ก็ทำงานหนักมาโดยตลอด

+++ความเคลื่อนไหวทางการเมือง พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวถึง การพิจารณารับรองคำขอจดจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ของกลุ่มการเมืองต่างๆ ว่า สำนักงาน กกต.อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารและคุณสมบัติของกลุ่มการเมืองที่ยื่นคำขอเข้ามา เบื้องต้นมีจำนวน 15 พรรคการเมืองที่ได้ลงนามและออกหนังสือรับแจ้งการจัดตั้งพรรคการเมือง (แบบ พ.ก.7/2) และหลังสงกรานต์ จะมีอีกหลายพรรคที่จะได้รับหนังสือรับแจ้งการจัดตั้งพรรคการเมือง (แบบ พ.ก.7/2)

+++ส่วนการขออนุญาตคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ทำกิจกรรมต่างๆ ของพรรคการเมือง กกต.ได้ส่งหนังสือไปให้ คสช.พิจารณาแล้ว จำนวน 30 กลุ่ม และได้รับอนุญาต จำนวน 9 กลุ่ม อย่างไรก็ตาม อยากเน้นย้ำให้กลุ่มการเมืองที่จะยื่นเอกสารขออนุญาต คสช. ระบุข้อมูลต่างๆ ให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นวัน เวลา และสถานที่จัดประชุมให้ชัดเจนด้วย

+++กรณีที่นายสกลธี ภัททิยกุล ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ไปรับตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม. มีความเห็นจากแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายจุติ ไกรฤกษ์ ที่แสดงความยินดี ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่สามารถทำคุณประโยชน์แก่คนกทม.ได้มาก และเชื่อว่า นายสกลธี เลือกเดินในเส้นทางที่คิดว่าเหมาะสมกับตัวเองที่สุดแล้ว หลังจากนี้พรรค ปชป.จะหาผู้ที่มีความเหมาะสม มาลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตหลักสี่ เขตเดิมของนายสกลธี ขณะนี้มีคนหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่จำนวนมากแสดงความต้องการทำงานการเมืองร่วมกับพรรค ซึ่งพรรค จะพิจารณาดูความเหมาะสมอีกครั้ง เพราะบางคนไม่ได้สนใจลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่ต้องการช่วยทำงานด้านการเมือง

+++การหาบุคคลมาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลัง แทนนายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ขอลาออกจากตำแหน่ง นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวถึง กระแสข่าวว่าเป็นหนึ่งในบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งดังกล่าวว่ายังไม่ทราบ เป็นข้าราชการ อยู่หน้าที่ไหนก็ต้องทำงาน

+++ด้านนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อีก1ในบุคคลที่มีชื่อเช่นเดียวกันว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดคง ต้องติดตามสถานการณ์การโยกย้าย อย่างไรก็ตามเป็นข้าราชการผู้บังคับบัญชาให้ทำงานที่ไหน ต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่

+++ส่วนการโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงพาณิชย์ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังมีกระแสปรับเปลี่ยนและโยกย้ายผู้บริหารระดับซี 9-11 ว่ากำลังพิจารณา หลังสงกรานต์น่าจะชัดเจน สามารถเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้การทำงานคล่องตัว สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และเปิดแนวคิดใหม่ๆ ในการทำงาน

+++ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ ปิดที่ 67.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 4 เซนต์ ปิดที่ 72.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นักลงทุน ติดตามความตึงเครียดต่างๆในตะวันออกกลาง รวมถึงความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯจะโจมตีซีเรีย ซึ่งอาจกระทบต่อกำลังผลิตน้ำมันในภูมิภาค แต่ล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ส่งสัญญาณใช้แนวทางระมัดระวังมากขึ้นต่อการยิงขีปนาวุธโจมตีซีเรีย ช่วยดันตลาดหุ้นพุ่งแรง ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 293.60 จุด ปิดที่ 24,483.05 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 21.80 จุด  ปิดที่ 2,663.99 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 71.22 จุด ปิดที่ 7,140.25 จุด

+++ราคาทองคำ  ปิดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วัน ลดลง 18.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,341.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์

+++กระแสข่าวสำนักโฆษกสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เตรียมสร้างออฟฟิเชียลไลน์ และสติ๊กเกอร์ไลน์ งบประมาณ 7 ล้านบาท พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการของผู้อำนวยการสำนักโฆษก มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว เป็นเรื่องของข้าราชการประจำ คงต้องไปถามรายละเอียดจากสำนักโฆษก ที่เสนอเรื่องต่อเลขาธิการนายกฯ

+++คดีอาชญากรรมอุกอาจ เจ้าหน้าที่ประชุมติดตามคดีคนร้าย ตามประกบและแทงนางทัศนีย์ ไชยศรี อายุ 56 ปี ภรรยาเจ้าของเรืออวนครอบหมึก จ.ชุมพร เหตุเกิดภายในห้องน้ำห้างฯ เทสโก้โลตัส สาขาชุมพร ถนนชุมพร-ระนอง ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร เหตุเกิดช่วงค่ำวันที่ 11 เม.ย.พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.ชุมพร สั่งตำรวจชุดสืบสวน ตั้งทีมติดตามคนร้าย จากภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าช่วงขาเข้า ขับรถจักรยานยนต์ฟีโน่สีขาว แต่ตอนออกไปขับรถจักรยานยนต์นูโว และในช่วงห้างฯ ปิด ไม่พบว่ามีรถฟีโน่สีขาวคันที่คนร้ายขับเข้าไป คาดว่า คนร้ายอาจย้อนกลับมาเอารถ หรือให้คนอื่นเข้ามาเอารถออกไป ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ได้เรียกเจ้าของรถ ที่คนร้ายขโมยและขับหลบหนีมาสอบปากคำทราบว่า เจ้าของรถ จอดรถลงไปซื้อเสื้อ แต่เสียบกุญแจรถคาไว้ จึงถูกคนร้ายขโมยรถขับหลบหนี

+++ตำรวจ ตั้งประเด็นไว้ที่คนร้ายต้องการชิงทรัพย์ โดยนางทัศนีย์ เดินไปเข้าห้องน้ำหญิงและเป็นช่วงหัวค่ำ ทำให้คนเข้าไปใช้ห้องน้ำไม่มากนัก คนร้ายจึงใช้มีดจี้ผู้เสียชีวิตเข้าไปในห้องน้ำคนพิการ ซึ่งอยู่ติดกันเพื่อจะเอาสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 บาท แต่ผู้เสียชีวิตขัดขืนจึงถูกคนร้ายใช้มีดปลายแหลมแทงเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดประเด็นอื่น ต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานก่อน เป็นการก่อเหตุในที่ชุมชนและที่สาธารณะ ชุดสืบสวนทำงานคืบหน้าไปมากแล้ว โดยจะยื่นต่อศาลขอออกหมายจับคนร้าย

แฟ้มภาพ