ปธน.จีน ประกาศการแสดงแสนยานุภาพทางเรือ/ทรัมป์ ทวีตอาจจะรออีกสักพักโจมตีซีเรีย/อังกฤษเห็นชอบกับปฎิบัติการในซีเรีย

13 เมษายน 2561, 05:16น.


+++ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการสร้างแสนยานุภาพ ระหว่างเดินทางไปสังเกตการณ์การซ้อมรบทางเรือในน่านน้ำพิพาททะเลจีนใต้ การเดินทางของประธานาธิบดีสี ได้รับการเผยแพ่รผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐ CCTV โดยเป็นภาพที่ประธานาธิบดีสี กำลังเฝ้าดูฝูงบินทะยานขึ้นจาก เหลียวหนิง เรือบรรทุกเครื่องบินหนึ่งเดียวของจีน และร่วมรับประทานอาหารกับลูกเรือ จากนั้นได้กล่าวสุนทรพจน์ว่า ภารกิจของจีนในการสร้างแสนยานุภาพทางนาวี ไม่เคยเป็นเรื่องเร่งด่วนเท่าวันนี้มาก่อน



+++การตรวจเยี่ยมทหารของประธานาธิบดีสี มีขึ้นในขณะที่ จีน เตรียมแถลงแผนจัดซ้อมรบกระสุนจริงทางนาวีในวันพุธหน้า ในช่องแคบที่กั้นระหว่างแผ่นดินใหญ่กับไต้หวัน ความเคลื่อนไหวนี้อาจจะทำให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มมากขึ้นกับไต้หวัน



+++สถานการณ์ในซีเรีย ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส เปิดเผยว่า มีหลักฐานที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่ารัฐบาลซีเรีย ใช้อาวุธเคมีประเภทแก๊สคลอรีน โจมตีพลเรือนในจังหวัดกูตาตะวันออก เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว มีคนเสียชีวิตกว่า 60 ศพ บาดเจ็บกว่า 500 คน เขาจะตัดสินใจในช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อไปว่าจะโจมตีซีเรียหรือไม่ แต่ผู้นำฝรั่งเศส ไม่ได้เปิดเผยว่าได้รับหลักฐานเรื่องนี้มาอย่างไรและมีข้อพิสูจน์อย่างไร ก่อนหน้านี้ เขาเคยย้ำว่าการโจมตีของฝรั่งเศสจะมุ่งทำลายศักยภาพในการผลิตอาวุธเคมีของซีเรีย



+++ด้านนายดมิตรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย เรียกร้องไม่ให้มีการดำเนินมาตรการใดๆที่อาจจะยิ่งสร้างความตึงเครียดหนักมากขึ้น พร้อมทั้งกล่าวถึงรายงานเรื่องการใช้อาวุธเคมีของซีเรียว่าเป็นลักษณะการยั่วยุ โดยเฉพาะฝ่ายกบฏซีเรียแต่งเรื่องเท็จขึ้นมาเพื่อให้ชาติตะวันตกใช้เป็นข้ออ้างในการยิงขีปนาวุธโจมตีซีเรีย



+++ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ทวีตข้อความว่า ขีปนาวุธสหรัฐฯกำลังจะพุ่งเป้าไปโจมตีซีเรีย แต่ล่าสุด นายทรัมป์ทวีตข้อความว่าโปรดตั้งคำถามว่าสหรัฐฯจะยิงขีปนาวุธโจมตีซีเรียเมื่อใด สหรัฐฯอาจจะโจมตีซีเรียในเร็วๆนี้หรืออาจจะรอไปอีกสักพักหนึ่งก็ได้



+++นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ของอังกฤษ เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉิน หลังการประชุม ทำเนียบรัฐบาลอังกฤษ ออกแถลงการณ์ระบุว่า คณะรัฐมนตรีของอังกฤษ เห็นด้วยกับความจำเป็นที่ต้องใช้ปฏิบัติการในประเทศซีเรียร่วมกับสหรัฐฯและฝรั่งเศส หาทางยับยั้ง ไม่ให้มีการใช้อาวุธเคมีอีกต่อไป



+++เรื่องเศรษฐกิจ การทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) เตือนเรื่องความตึงเครียดจากสงครามการค้าระหว่างประเทศจีน-สหรัฐฯ ว่าอาจจะทำให้ระบบการค้าของโลก เสี่ยงได้รับความเสียหายอย่างหนัก เรียกร้องให้ประเทศต่างๆให้เลี่ยงนโยบายการปกป้องตลาดภายในของตัวเอง เธอแสดงความเห็นเรื่องนี้หลังสหรัฐฯและประเทศจีน มีปัญหาพิพาททางการค้าอย่างรุนแรง หลังต่างฝ่ายต่างขึ้นภาษีนำเข้าจากอีกฝ่ายหนึ่งรวมเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ



+++นางลาการ์ด ไม่ได้ตำหนิประเทศใดประเทศหนึ่งว่าเป็นต้นเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ระบุว่าปัญหานี้สะท้อนให้เห็นความล้มเหลวเชิงนโยบายร่วมกันของระบบการค้าทั่วโลก เรียกร้องให้ประเทศต่างๆลดกำแพงทางการค้าและแก้ปัญหาความขัดแย้ง โดยใช้มาตรการพิเศษกว่าที่ใช้แก้ปัญหาทั่วๆไป ซึ่งประเด็นนี้ดูเหมือนจะพาดพิงเป็นนัยๆถึงรัฐบาลสหรัฐฯที่ใช้มาตรการขึ้นภาษีที่ไม่อยู่ในกฏกติกาขององค์การการค้าโลก(ดับเบิลยูทีโอ)



+++ผู้เชี่ยวชาญหลายคน เตือนว่า มาตรการของสหรัฐฯในเรื่องนี้สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อระบบการค้าทั่วโลกของดับเบิลยูทีโอ แต่ดูเหมือนว่าคำพูดของนางลาการ์ด จะสะท้อนถึงปัญหาความไม่พอใจของสหรัฐฯที่มีต่อประเทศจีน ระบุว่า แต่ละประเทศต่างมีภาระหน้าที่ที่จะต้องปรับปรุงระบบการค้าให้ดีขึ้น ด้วยการหันมาตรวจดูข้อปฏิบัติทางการค้าของตัวเองและสร้างโอกาสในการแข่งขันอย่างเท่าเทียมกันให้กับประเทศต่างๆที่ปฏิบัติตามกฏกติกาทางการค้าของดับเบิลยูทีโอ



+++ขณะที่ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีสี เปิดเผยว่า จะเปิดเศรษฐกิจจีน ให้กว้างมากยิ่งขึ้นและจะลดภาษีนำเข้าสินค้าบางรายการ เช่น รถยนต์ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อนที่ไปแปลความหมายคำพูดของประธานาธิบดีสีว่าเป็นการยอมอ่อนข้อให้กับสหรัฐฯ  เขากล่าวว่า ประธานาธิบดีสี เพียงแค่วางยุทธศาสตร์ในการเปิดตลาดจีนให้กว้างมากขึ้น ซึ่งไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับข้อพิพาททางการค้ากับสหรัฐฯ ขณะนี้จีนและสหรัฐฯ ยังไม่ได้เปิดการเจรจาใด ๆ เกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้า



+++หลังจากที่ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเฟซบุ๊ก อิงค์ สื่อสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของโลก ประกาศว่าจะหาทางสกัดการโพสต์ข้อความแสดงความเกลียดชังในเมียนมา ภายใน 24 ชั่วโมง กลุ่มนักเคลื่อนไหวในเมียนมา ยินดีต่อคำมั่นของมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซักเคอร์เบิร์ก กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในเมียนมา ถือเป็นโศกนาฎกรรมร้ายแรงและเฟสบุ๊คต้องพยายามมากยิ่งขึ้น เพื่อรับมือกับการโพสต์ข้อความแสดงความเกลียดชังและต่อต้านชาวมุสลิมโรฮิงญา เนื่องจาก เหตุรุนแรงในรัฐยะไข่และชาวมุสลิมโรฮิงญาเกือบ 7 แสนคน ต้องอพยพหนีภัยไปยังบังกลาเทศตั้งแต่เมื่อปลายเดือนสิงหาคม



 



CR:CNN.Com.



 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X