รัสเซียใช้สิทธิ์ยับยั้งร่างมติยูเอ็น ประณามซีเรียใช้อาวุธเคมีโจมตีพลเรือน

ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างนางนิกกี ฮาลีย์ ทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติว่า รัฐบาลรัสเซียใช้สิทธิ์ยับยั้งร่างมติของคณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็น(ยูเอ็นเอสซี)ที่เสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนที่เป็นอิสระเพื่อสอบสวนข้อครหาที่ว่ารัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีโจมตีพลเรือนในเมืองดูมาเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว มีคนตายกว่า 60 ศพ บาดเจ็บกว่า 500 คน นอกจากนั้น ร่างมติดังกล่าวซึ่งเสนอโดยสหรัฐฯได้ประณามรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาดของซีเรียในเรื่องการใช้อาวุธเคมีดังกล่าว พร้อมทั้งเสนอให้รัฐบาลซีเรียอนุญาตให้เจ้าหน้าที่จากองค์การกุศลให้สามารถลงพื้นที่เพื่อแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชน และให้มีการสอบสวนเรื่องนี้อย่างละเอียด

นางฮาลีย์กล่าวว่า ทุกครั้งที่ประชาชนในเมืองดูมาของซีเรีย และประชาชนในประเทศอื่นๆที่เป็นประชาคมระหว่างประเทศหรือสมาชิกยูเอ็น หวังจะให้องค์กรยูเอ็นเอสซีจัดการกับปัญหานี้อย่างเด็ดขาดสักที ปรากฏว่ามีประเทศเดียวที่ขัดขวางยูเอ็นเอสซีมาโดยตลอดคือรัสเซีย ประวัติศาสตร์จะต้องจารึกไว้ว่าในวันนี้ รัสเซียเลือกที่จะช่วยปกป้องปีศาจร้ายคือรัฐบาลของนายอัสซาด แทนที่จะปกป้องชีวิตของพลเมืองชาวซีเรียทีเดือดร้อน พร้อมทั้งกล่าวหารัสเซียว่าทำลายความน่าเชื่อถือขององค์กรยูเอ็นเอสซี ด้านนายโอลอฟ สกูก เอกอัครราชทูตสวีเดนประจำยูเอ็นกล่าวถึงการคัดค้านมติยูเอ็นของรัสเซียว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ

ก่อนหน้านี้รัสเซียเคยใช้สิทธิ์ยับยังไม่ให้ที่ประชุมยูเอ็นเอสซีรื้อฟื้นเรื่องการตั้งคณะกรรมการอิสระชุดหนึ่งเพื่อสอบสวนกรณีการใช้อาวุธเคมีในซีเรียมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อเดือนพศจิกายนปีที่แล้ว ขณะที่นางคาเรน เพียร์ส เอกอัครราชทูอังกฤษประจำยูเอ็นเตือนความจำของสมาชิกในที่ประชุมว่า ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 6 แล้วที่รัสเซียใช้สิทธิ์ยับยังไม่ให้ยูเอ็นเอสซีลงมติประณามซีเรียในเรื่องการใช้อาวุธเคมีสังหารพลเมืองในซีเรีย