แม่ทัพภาค3 ผู้ว่าฯเชียงใหม่ แก้ปัญหาบ้านพักตุลาการ/มีชัยชี้เป็นสิทธิพรรคการเมืองเชียร์นายกฯคนนอก/ศาลฎีกายกฟ้องครูแขก

10 เมษายน 2561, 19:08น.


สรุปข่าว 19.35 น.



+++การแก้ไขปัญหาการก่อสร้างอาคารศาลอุทธรณ์ภาค 5 และที่พักข้าราชการตุลาการ ที่มีการใช้พื้นที่ของกรมธนารักษ์ในต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งตั้งบริเวณเชิงดอยสุเทพและใกล้กับเขตอุทยานแห่งชาติสุเทพ-ปุย  พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า แม่ทัพภาคที่ 3  และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่จะตั้งคณะกรรมการไปตรวจสอบรายละเอียดว่ามีความจำเป็นต้องรื้อในส่วนใดบ้าง และรายงานให้ตนรับทราบในวันที่ 29 เม.ย.



+++ ในส่วนของศาลนั้นทางสำนักงานเลขานุการศาลยุติธรรมได้ทำหนังสือเสนอมาที่รัฐบาลโดยมีแนวทางเป็นเรื่องของรายละเอียดทางศาล ซึ่งจะต้องนำทุกส่วนมาบูรณาการแก้ไขปัญหาเพื่อหาทางออกร่วมกัน เบื้องต้นเพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับผู้ประกอบการควรจะให้ดำเนินการให้ได้ข้อยุติเสร็จสิ้นภายใน 1-2 เดือนข้างหน้า ส่วนพื้นที่ที่สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ต้องคิดว่าจะดำเนินการอย่างไรให้เกิดประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่มากที่สุด ตนคิดว่าศาลจะเข้าใจในประเด็นนี้ สำหรับประเด็นใครจะรับผิดชอบต่อการดำเนินการก่อสร้างบ้านจำนวน 45 หลัง ในแง่ข้อกฎหมายคือเงินจำนวน 300 กว่าล้านบาทที่สร้างบ้านพักและมีการทุบทิ้งใครจะรับผิดชอบ เพราะจะเป็นการเสียประโยชน์ไปโดยเปล่าประโยชน์หรือไม่



+++กรณีที่พรรคการเมืองประกาศสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมาเป็นนายกรัฐมนตรีนอกบัญชีในสมัยหน้านายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า  เป็นสิทธิของพรรคการเมืองที่จะประกาศ  คงไม่สามารถไปกำหนดทิศทางได้ แต่เมื่อประกาศออกมาแล้วก็ขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะชอบหรือไม่  และสุดท้ายขึ้นอยู่กับที่ประชุมรัฐสภาว่าจะตัดสินใจเลือกกันอย่างไร  เบื้องต้นหากสภาผู้แทนราษฎรเสนอคนในบัญชีรายชื่อและสามารถเลือกกันได้ข้อยุติ  ก็ไม่มีการเลือกนายกรัฐมนตรีนอกบัญชี ดังนั้นหากเลือกกันได้  แม้จะมีการสนับสนุนคนนอกอย่างไร ก็ไม่มีประโยชน์ ส่วนแผนปฏิรูปประเทศที่ประกาศใช้แล้วว่า เป็นเพียงโครงร่างกว้าง ๆ  จะต้องทำแผนปฏิบัติการก่อนจึงจะลงรายละเอียดเรื่องงบประมาณได้ ดังนั้นที่มีการระบุว่าต้องใช้เงินจำนวนมากนั้นไม่เป็นความจริง เพราะขณะนี้ยังไม่ได้ทำแผนปฏิบัติการ 



+++นายมีชัย ยังอวยพรคนไทยเนื่องในโอกาสเทศกาลสงกรานต์ หรือปีใหม่ไทยว่า  ขอให้คนไทยทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง มั่งมีศรีสุข  เตือนประชาชนอย่าประมาทในการใช้ชีวิต เพราะกว่าจะเกิดมาเป็นคน และกว่าจะโตมาเป็นเรื่องยากลำบาก



ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ  (ขสมก.) ชดใช้ค่าเสียหายให้กับบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด  บริษัท อาร์ แอนด์ เอ คอมเมอร์เชียล วิฮีเคิลส์ เอสดีเอ็น. บีเอชดี.  บริษัท รถยนต์เซินหลง (เซี่ยงไฮ้) จำกัด และบริษัท เทคโนโลยีพลังงานใหม่เป่ยฟังกวางโจว  จำกัด เนื่องจากบอกเลิกสัญญาจัดซื้อจัดจ้างรถยนต์โดยสารปรับอากาศ NGV  และค่าบำรุงรักษา จำนวน 489 คัน โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นเงิน 1,159,969,552.50 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีของเงินต้น 1,147,831,350.06 บาท นับถัดจากวันที่ 7 มิถุนายน 2560 ซึ่งเป็นวันฟ้องคดีเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ ด้าน นายคณิสสร์  ศรีวชิระประภา ประธานกรรมการบริหารบริษัท เบสท์ริน กล่าวว่า คำพิพากษาวันนี้ ถือว่าเป็นการให้ความเป็นธรรมกับบริษัทอย่างมาก เพราะกว่า 1 ปี บริษัทตกเป็นจำเลยสังคมของประเทศ ถือว่าศาลเมตตา คืนความเป็นธรรมให้  ความจริงแล้วเราไม่ได้ต้องการจะได้ค่าเสียหาย แต่ต้องการที่จะส่งมอบรถที่สั่งมาให้กับ ขสมก. เพื่อที่ประชาชนจะได้ใช้ โดยบริษัทจะไม่อุทธรณ์เรื่องค่าเสียหายเพิ่ม แต่พยายามเจรจากับรัฐบาล และ ขสมก. เพื่อหาทาง โดยอาจจะมีการทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะให้  ขสมก.มีการเซ่า หรือซื้อ ของบริษัทไป 



+++ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.อัมพร ใจก้อน หรือครูแขก อายุ 56 ปี ชาวเชียงใหม่ ผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลย ในความผิดฐานมีวัตถุระเบิดชนิดแสวงเครื่อง และกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ระหว่างต้นเดือนมิถุนายน 2553-5 ต.ค.2553 เหตุเกิดที่สมานเมตตาแมนชั่น ต.โสนลอย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ชั้นพิจารณาจำเลยให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี ซึ่งระหว่างการพิจารณาได้รับการปล่อยชั่วคราว โดยศาลตีราคาประกัน 200,000 บาท ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์ไม่ปรากฏว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืนยกฟ้อง



+++ขณะที่ น.ส.เบญจรัตน์ มีเทียน ทนายความของ น.ส.อัมพร เปิดเผยด้วยว่า สำหรับคดีที่ศาลจังหวัดมีนบุรีนั้น อัยการโจทก์ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ เป็นที่สิ้นสุดแล้ว ส่วนคดีวันนี้ศาลชั้นต้นและอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องเหมือนกัน จะเข้าข่ายคดีต้องห้ามฎีกา และเตรียมจะฟ้องกลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กับพวกทั้งคดีอาญาและคดีแพ่งด้วย



+++ส่วนอีกคดีศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาพิพากษายืนจำคุกจำเลยใน คดีที่พนักงานอัยการคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้องนายอัฟฟาฮัม หรือโจ สะอะ นายอิคดริส หรือเยะ สะตาปอ  นายคัมภีร์ หรือภีร์ ลาเต๊ะ และนายอิบรอเฮง หรือเฮง  แวแม  เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, กระทำให้เกิดระเบิดเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ทรัพย์ของผู้อื่น, ร่วมกันทำและมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และ ร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุสมควร กรณีวันที่ 26 พ.ค.56 เวลากลางคืน จำเลยร่วมกันนำระเบิดแสวงเครื่องไปวางไว้ที่จุดทิ้งขยะหน้าร้านออกัส ซอยรามคำแหง 53/1 เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เพื่อจะฆ่าผู้อื่น แต่ไม่สำเร็จ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย ทรัพย์สินบางส่วนได้รับความเสียหาย คดีนี้ศาลชั้นต้น พิพากษาจำคุกจำเลยทั้ง4 คน  คนละ 50 ปี  ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ลดโทษ เหลือจำคุกจำเลยคนละ 33 ปี 4 เดือน  



+++การร้องเรียนของผู้ประกอบการรถนำเข้า หรือ รถหรู  ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งศุลกากรที่ 317/2547 เรื่องแนวทางการพิจารณาราคารถยนต์นั่งสำเร็จรูป พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องให้ความเป็นธรรมทั้งผู้ประกอบการที่เป็นผู้นำเข้าอิสระที่ไม่ใช่ตัวแทนจำหน่าย และผู้บริโภค โดยรัฐบาลกำลังให้กระทรวงยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอและกรมศุลกากรที่เป็นผู้กำหนดภาษีและกำหนดราคาในการนำเข้า จึงขอให้แยกแยะคดีเก่าและเรื่องใหม่ ที่ต้องหาวิธีที่เหมาะสมและให้ความเป็นธรรม ซึ่งรถที่นำเข้ามาแล้วสำแดงเท็จและนำไปขายแล้วถือว่าผิด ใครก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้ เพราะอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. แต่ก็มีหลายบริษัทที่พยายามให้ไปปลดล็อก ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้



+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,760.95 จุด เพิ่มขึ้น 9.68 จุด มูลค่าการซื้อขาย 60,300.28 ล้านบาท นักลงทุนยังคงให้น้ำหนักกับประเด็นสงครามการค้าสหรัฐ-จีน จากสถานการณ์ที่กลับมาร้อนแรงขึ้น หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศแผนจัดเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 



+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นในวันนี้ หลังจากนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้ให้คำมั่นในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมโป๋อ่าว ฟอรั่ม ฟอร์ เอเชีย (BFA) วันนี้ว่า จีนจะเปิดกว้างทางเศรษฐกิจต่อไป ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทด้านการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ  ดัชนีนิกเกอิปิดพุ่งขึ้น 116.06 จุด แตะที่ 21,794.32 จุด



+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับตลาดอื่นๆในภูมิภาค เพิ่มขึ้น 499.16 จุด  ปิดวันนี้ที่ 30,728.74 จุด

+++บีบีซีรายงานอ้างสำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเกาหลีเหนือว่า นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ได้พูดต่อที่ประชุมเจ้าหน้าที่พรรคแรงงาน พรรครัฐบาลเกาหลีเหนือเมื่อวานนี้ เป็นครั้งแรกว่ามีโอกาสที่เกาหลีเหนือจะได้พูดคุยกับสหรัฐฯ โดยผู้นำเกาหลีเหนือไม่ได้เอ่ยอย่างชัดเจนเรื่องการประชุมกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ แต่เขาตั้งข้อสังเกตเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีที่เริ่มดีขึ้นโดยลำดับและจะมีการประชุมสุดยอดระหว่างเขากับประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้ที่หมู่บ้านชายแดนในเขตปลอดทหารระหว่างสองเกาหลีในวันที่ 27 เมษายนนี้ ผู้นำเกาหลีเหนือยังเปิดเผยว่า มีโอกาสที่จะได้พูดคุยกับสหรัฐฯ แต่รายละเอียดต่างๆเช่นเรื่องเวลา สถานที่และหัวข้อการประชุม ยังคงไม่มีความชัดเจนใน ที่ผ่านมารัฐบาลเกาหลีเหนือไม่เคยปริปากพูดเรื่องนี้ในที่สาธารณะ หากการประชุมดังกล่าวสามารถจัดขึ้นตามแผนการที่วางไว้จริง นายทรัมป์จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนแรกที่พบปะกับผู้นำเกาหลีเหนือขณะอยู่ในตำแหน่งผู้นำประเทศ



 



 

ข่าวทั้งหมด

X