หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ได้ทราบนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะตั้งพรรคการเมือแต่ยังไม่ได้เข้ามาพูดคุยกับตนเอง และขณะนี้ก็ยังไม่มีใครทาบทามหรือเชิญตนเองให้เป็นที่ปรึกษาพรรค หรือสมาชิกพรรคใด และส่วนตัวต้องพิจารณานโยบายของพรรคต่าง ๆ ว่าเหมาะสมหรือไม่ และตรงกับนโยบายที่ตนเองได้เคยทำมาหรือไม่ รวมถึงมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นหรือไม่ ซึ่งหากเป็นพรรคที่ดีและมาขอให้ตนเองช่วยเป็นที่ปรึกษาก็จะต้องพิจารณา
โดยนายกรัฐมนตรีระบุด้วยว่า ส่วนตัวจะไปเลือกตั้ง หากพรรคไหนดี ก็จะเลือกพรรคนั้น ด้านความชัดเจนทางการเมืองของนายกรัฐมนตรี ขอให้รอในช่วงใกล้เลือกตั้ง และหากเริ่มมีการพูดคุยกันก็จะชัดเจนขึ้นว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพราะส่วนตัวก็ไม่สามารถลงสมัครส.ส. ได้ จึงต้องดูความเหมาะสม พร้อมถามกลับด้วยว่าพรรคการเมืองที่มาทาบทามตนเอง รับรองได้หรือไม่ว่าหากตนเองเข้าไปเป็นสมาชิกแล้วจะชนะการเลือกตั้ง ดังนั้นตนเองต้องดูด้วยว่าคุ้มค่าและได้ทำเพื่อประเทศชาติหรือไม่ พร้อมระบุด้วยว่า ต้องขึ้นอยู่กับชะตากรรม
ส่วนเรื่องการเมืองขณะนี้ไม่รู้จะคุยกันได้หรือไม่ เพราะพรรคการเมือง ยืนยันว่าจะไม่พูดคุย แต่จะเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว โดยนายกรัฐตรีระบุว่าการเชิญพรรคการเมืองมาพูดคุยไม่ใช่การผูกมัด แต่ต้องการมาคุยว่าต่อจากนี้จะทำเพื่อประเทศชาติอย่างไร
สำหรับการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนนอกนายกรัฐมนตรีมองว่า เป็นไปตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญหากไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีที่มาจากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองเสนอมาได้ ส่วนการที่ขณะนี้ชื่อพล.อ.ประยุทธ์ เป็นรายชื่อนายกรัฐมนตรีคนนอกที่ได้รับความใจมาก นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เป็นเพราะผู้สื่อข่าวทำให้เกิดความสนใจดังนั้นขอให้ไปมองที่คนอื่นบ้าง ส่วนจะเป็นใครนั้น ส่วนตัว พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่านึกไม่ออกและไม่เคยคิดถึงชื่อของตัวเองด้วยเช่นกันนายกรัฐนตรี ยืนยันด้วยว่าไม่เคยรังเกียจการเมือง แต่รังเกียจการเมืองที่ไม่สุจริตและไม่มีธรรมาภิบาล การเมืองที่สร้างความขัดแย้ง ซึ่งหากไม่พอใจก็ขอให้ไปเลือกใหม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า