ไม่รื้อทิ้ง!นายกฯย้ำแก้ได้บ้านพักตุลาการริมดอยสุเทพ สร้างก่อนรัฐบาลคสช.เสียดายงบ

ปัญหาการคัดค้านการสร้างบ้านพักตุลาการ บริเวณเชิงดอยสุเทพ และดอยปุย อ.แม่ริมจังหวัดเชียงใหม่  หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า มีความชัดเจนในการแก้ไข หลังได้สอบถามข้อมูลรายละเอียดที่มีอยู่ โครงการดังกล่าวเป็นการอนุมัติการก่อสร้างโครงการก่อนที่รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.จะเข้ามา ซึ่งพื้นที่ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือส่วนล่างจะเป็นที่ตั้งของศาลยุติธรรม ส่วนที่ 2 คือสถานที่พักที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ และในส่วนที่ 3 ยังไม่ได้มีการก่อสร้างเพราะทำไม่ได้ และแม้ว่ารัฐบาลคสช.จะไม่ได้เป็นผู้อนุมัติโครงการนี้ แต่จะแก้ปัญหาให้เกิดความชัดเจนเป็นไปตามกฎหมายและประชาชนต้องการ

นายกรัฐมนตรี ระบุว่ารู้สึกเสียดายในงบประมาณที่ก่อสร้างมาและเป็นไปตามขั้นตอนสัญญาต่างๆ รัฐบาลจึงสั่งการให้ คสช. มณฑลทหารบกที่ 3 และกระทรวงมหาดไทย เข้าทำความเข้าใจ ในการหาทางออกร่วมกัน ซึ่งแม้ว่าจะมีบางฝ่ายเสนอให้ทุบทิ้งแต่ส่วนมองว่าหากทำก็เป็นเรื่องที่ง่าย แต่งบประมาณภาครัฐที่เสียไปไม่เกิดประโยชน์ ดังนั้นอาจเปลี่ยนเป็นสถานที่ให้เป็นสถานที่ฝึกอบรมหรือศูนย์เรียนรู้ให้ประชาชน  นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อย่าเชื่อมโยงกับการบุกรุกพื้นที่ก่อสร้างรีสอร์ทเพราะถือเป็นการกระทำของภาคเอกชน ส่วนเรื่องจะผิดหรือถูกค่อยว่ากันอีกที อย่ามาเดินขบวน ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ใช่คู่อริกับใคร

ส่วนความชัดเจนแถลงผลงานรัฐบาล 4 ปี  นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาในเรื่องดังกล่าวว่าจะแถลงด้วยตนเองเหมือน 3 ปีที่ผ่านมาหรือประกาศลงเว็ปไซด์ เพราะรัฐบาลกำลังพยายามรณรงค์ลดใช้กระดาษ และจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามี กว่า 500 หน้า จึงมีแนวโน้มว่าจะลงประกาศในเว็ปไซด์ ดังนั้นขอให้สื่อมวลชนไปเปิดอ่านดู และติดตามแต่ขออย่าจับผิด

ส่วนจะให้ข้าราชการเกษียณอายุเมื่ออายุ 63 ปีหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เพื่อให้ผู้สูงอายุมีงานทำในสาขาที่ขาดแคลน เช่น แพทย์ นักวิชาการ โดยยืนยันว่าไม่ใช่ต่ออายุราชการ เพราะต้องคัดกรองก่อน ซึ่งเรื่องนี้เป็นความคิดเห็นของคณะกรรมการปฏิรูปที่เสนอเข้ามา แต่รัฐบาลจะต้องทบทวนก่อนหากทำได้ก็จะให้ทำทันที จึงขออย่ากังวล และแยกแยะให้ออก เพราะเป็นเหมือนการให้คนที่ยังมีสมรรรถภาพในการทำงานยังทำงานต่อ เช่นหมอผ่าตัดที่มีประสบการณ์สูงๆอาจจะให้อยู่ในรูปแบบที่ปรึกษาและผู้ทรงคุณวุฒิ โดยยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงและไม่ใช่ข้อแก้ตัวใดๆทั้งสิ้น