ปลัดกระทรวงยุติธรรม ยอมรับหนี้นอกระบบเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศ

10 เมษายน 2561, 12:59น.


การประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำ Flow chart แผนภาพแสดงลำดับขั้นตอนการดำเนินงานเพื่อแสดงให้เห็นภาพรวมของการบูรณาการ การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ สำหรับใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติงานให้ครอบคลุมในทุกมิติ ที่มีนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน และมีผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 27 หน่วยงาน อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย ทหาร กระทรวงการคลัง ธนาคารที่ดิน ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 


นายธวัชชัย กล่าวว่า ปัญหาหนี้นอกระบบเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน จึงต้องประชุมเพื่ออหารือถึงบทบาท ภารกิจของแต่ละหน่วยงาน โดยได้จัดทำ Flow chart แผนภาพแสดงลำดับขั้นตอน เพื่อแสดงให้เห็นภาพรวมของการบูรณาการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบ โดยจะร่วมกันหารือภาพรวมของปัญหา อุปสรรค พร้อมข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาในเชิงบูรณาการและนโยบาย และร่วมกันพิจารณาถึงบทบาทของแต่ละหน่วยงานกับการช่วยเหลือหนี้นอกระบบ ในประเด็นการบังคับใช้กฎหมาย การช่วยเหลืออำนวยความยุติธรรม การช่วยเหลือด้านแหล่งทุน และการช่วยเหลือสงเคราะห์ โดยยอมรับว่า ปัญหาหนี้สินเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศ ที่เกิดจากหลายสาเหตุซึ่งมีความเชื่อมโยงกัน ทั้งปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เช่น ภาวะเศรษฐกิจในประเทศ หรือ เศรษฐกิจของโลก ภัยธรรมชาติ สถานะที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด และปัจจัยที่ควบคุมได้ เช่น  รายได้ การดำรงตน การป้องกันความเสี่ยง การรับรู้ แต่บทสุดท้ายของผู้ที่ตกเป็นหนี้จะอยู่ในภาวะที่ต้องจำยอมทำสัญญาที่ถูกเอารัดเอาเปรียบเพราะต้องการเงิน และเมื่อถูกฟ้องร้องดำเนินคดีก็ไม่มีความรู้ด้านกฎหมาย ทำให้อยู่ในฐานะที่เสียเปรียบตั้งแต่ต้นทางของกระบวนการยุติธรรม 


ที่ผ่านมาพลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้ความสำคัญกับ การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เพราะเป็นปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมของผู้ที่มีฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมสูงกว่า คือ เจ้าหนี้ และผู้มีฐานะด้อยกว่าคือ ลูกหนี้ กระทรวงยุติธรรมได้เข้ามาแก้ไขปัญหา โดยใช้มาตรการด้านกฎหมาย ซึ่งได้แก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 ให้มีบทลงโทษสำหรับผู้ปล่อยเงินกู้โดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด หรือ ร้อยละ 15 ต่อปี ให้มีโทษจำคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท, ด้านการบังคับใช้กฎหมาย หากเป็นกรณีเจ้าหนี้ผู้มีอิทธิพลรายใหญ่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้เข้าไปสืบสวนสอบสวน และประสานกับกรมสรรพากรเมื่อดำเนินมาตรการทางภาษี และด้านการช่วยเหลืออำนวยความยุติธรรม เพราะลูกหนี้จะถูกเอาเปรียบในเรื่องดอกเบี้ย การทำสัญญา ซึ่งได้สั่งการให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม จัดให้คำปรึกษาแนะนำทางด้านกฎหมาย รับเรื่องร้องเรียนทั้งจากประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดคณะทำงานลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อประกอบการดำเนินคดีด้วยมาตรการทางอาญา  ประกอบการให้ความช่วยเหลือทางแพ่ง  การพิจารณาช่วยเหลือด้านทนายความตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนยุติธรรม  


 
ข่าวทั้งหมด

X