จีนตำหนิสหรัฐฯ ต้นตอสงครามการค้า

รอยเตอร์รายงานอ้างนายเกง ชวง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนว่า รัฐบาลจีนได้ตำหนิรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯในวันนี้กรณีการขู่ะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนอีกราว 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อลงโทษจีนเป็นการเริ่มต้นทำให้เกิดปัญหาพิพาททางการค้าขึ้นมา จนกระทั่งเป็นไปไม่ได้ที่ทั้งสองฝ่ายจะหาทางพูดคุยเพื่อแก้ไขปัญหา  หลังนายทรัมป์พูดเมื่อวานนี้ ว่าในที่สุด รัฐบาลจีนอาจจะตัดสินใจลดพิกัดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ พร้อมทั้งแสดงความหวังว่าทั้งสองฝ่ายอาจจะเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาต่อไปแต่โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนตั้งข้อสังเกตว่าภายใต้สถานการณ์ในปัจจุบันนี้ สหรัฐฯแกว่งมือข้างหนึ่งในลักษณะขู่จะลงโทษจีน แต่อีกด้านหนึ่งสหรัฐฯก็บอกว่าพร้อมจะเจรจากับจีน เขาจึงไม่แน่ใจว่าผู้นำสหรัฐฯแสดง 2 บทบาทในขณะเดียวกันเพื่ออะไร

ก่อนหน้านี้ นายเซี่ย ซวี่เหริน รัฐมนตรีช่วยคลังของจีนกล่าวต่อที่ประชุมธุรกิจเอเชียโป๋อ๋าวประจำปี 2018 ในมณฑลไหหลำทางภาคใต้ของจีนเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า รัฐบาลจีนไม่ต้องการจะทำสงครามการค้ากับสหรัฐฯ แต่ก็ไม่รู้สึกหวั่นวิตก ถ้าหากจำเป็นต้องทำสงครามกัน โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนและนางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟจะขึ้นเวทีปราศัยในเวทีนี้ในวันพรุ่งนี้

ด้านนักวิจัยและสื่อของรัฐบาลจีนมองว่ามาตรการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนของรัฐบาลสหรัฐฯคงจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนซึ่งมีขนาดใหญ่อันดับสองของโลกและกล่าวถึงนโยบายการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนของของผู้นำสหรัฐฯว่าเป็นผลมาจากโรควิตกกังวลในเรื่องปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯของประธานาธิบดีทรัมป์