รองผบ.ตร.จะส่งความเห็นแย้งใน5ข้อหาที่อัยการสั่งไม่ฟ้องเปรมชัยในวันพรุ่งนี้ก่อนเที่ยง

หลังการประชุมพนักงานสอบสวน ในคดีที่นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เข้าไปล่าสัตว์ป่าในทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก เพื่อหารือแนวทางทำความเห็นแย้ง กรณีที่อัยการภาค 7 มีคำสั่งไม่ฟ้อง 5 ข้อหาและสั่งฟ้อง 6 ข้อหา พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ดูแลงานฝ่ายความมั่นคงและกิจการพิเศษ ระบุว่า ที่ประชุมมีความเห็นตรงกันว่า ข้อหาที่พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง พนักงานสอบสวนมีความเห็นตาม ส่วนข้อหาที่พนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ทุกข้อหา คณะพนักงานสอบสวนมีความเห็นแย้งทุกข้อหาเช่นกัน ในหลักการกรณีที่พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องข้อหาพยามยามล่าสัตว์ป่าฯ มีความเห็นฟ้องผู้ต้องหาบางคน แต่อีกบางคนไม่ฟ้อง ซึ่งเรื่องนี้พนักงานสอบสวนยืนยันตั้งแต่ต้นว่าทุกคนมีการแบ่งหน้าที่กันทำ ในข้อหาร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าฯ ก็ต้องมีการ

แบ่งหน้าที่กันทำเหมือนกัน จะฟ้องเฉพาะนายธานี ทุมมาศ คนเดียวไม่ได้

หลังจากนี้จะส่งความเห็นแย้งกลับไปยังอัยการภายในวันพรุ่งนี้ก่อนเที่ยง ส่วนอัยการสูงสุดจะมีความเห็นอย่างไร ก็เป็นอำนาจหน้าที่ของอัยการสูงสุด ตำรวจไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ โดยตำรวจรวบรวมคำพิพากษาศาลฎีกาต่างๆ เพื่อสนับสนุนความเห็นแย้งของพนักงานสอบสวน  เช่น กรณีการสั่งไม่ฟ้องเรื่องการเข้าไป และการนำอาวุธเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์ป่าฯ ซึ่งกฎกระทรวงฉบับที่ 7/2538 อาศัยอำนาจตามมาตรา 5 และมาตรา 37 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ กำหนดไว้ว่า ไม่ให้นำวัตถุระเบิด ประทัด ยาเบื่อ ยาเมา หรือสิ่งอื่นที่อันตรายต่อสัตว์ป่า ไม่นำเครื่องมือจับสัตว์ หรืออาวุธใดๆ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่  ในกรณีนี้จากการสอบสวนไม่มีการยื่นหลักฐานการขออนุญาต พนักงานสอบสวนมองว่าผิดกฎกระทรวงฉบับนี้ เพราะหลักฐานการขออนุญาตนำอาวุธเข้าไปไม่มี ผิดกฎหมายชัดเจน การเข้าไปตามข้อ 1 ให้ปฏิบัติคือต้องขอนุญาตเข้า เมื่อไม่ได้ขออนุญาตก็ไม่มีใครมาอนุมัติให้เข้าไปได้ เพราะว่ากฎกระทรวงบัญญัติว่าต้องขออนุญาต จะให้นายวิเชียร ชินวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ก็อนุญาตไม่ได้ ถ้าไม่มีหนังสือขออนุญาต ส่วนจะมองว่านายวิเชียร มีความผิดหรือไม่นั้นต้องดูเอาเอง

นอกจากนี้ยังมีคำสั่งกรมอุทยานที่ 1257/49 ตามมาตรา 32 แห่งพระราชญัติบริหารราชการแผ่นดินปี 2534 วางระเบียบไว้ว่า ข้อ 4 ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ให้ดำเนินการจัดเก็บค่าบริการ ค่าตอบแทน โดยถือปฏิบัติตามระเบียบ มาตรา 46 แห่ง พ.ร.บ. คุ้มครองสัตว์ป่า ปี 2535 แต่ในกรณีไม่มีการเก็บค่าบริการ รวมถึงระเบียบตามมาตรา 46 ข้อ 5.3 ผู้ใช้บริการสามารถทำการขออนุญาตใช้สถานที่ ในเวลาราชการ โดยทำการขออนุญาตผ่านกรม จะมีคำแนะนำขออนุญาต

ส่วนกรณีที่ไม่สามารถมาได้ด้วยตนเอง สามารถโทรศัพท์สอบถามหรือส่งรายละเอียดการขอใช้พื้นที่ทางไปรษณีย์ ยืนยันว่าต้องไปยืนคำร้อง ส่วนข้อ 5.1 และข้อ 5.2 การใช้สถานที่และขอที่พักผ่านระบบหนังสือราชการต้องอนุญาตผ่านกรมเท่านั้น กรมไม่มีตัวแทนหรือให้เอกชนหรือกลุ่มบุคคลใดเป็นตัวแทนไม่ได้ ตนก็แย้งโดยมีกฎกระทรวง คำสั่ง และระเบียบ เป็นข้อสนับสนุนความเห็นแย้งของพนักงานสอบสวน

ส่วนนายวิเชียรจะมีความผิดตามกฎกระทรวงหรือไม่นั้น พลตำรวจเอกศรีวราห์ ระบุว่าไม่สามารถตอบแทนได้ เป็นอำนาจของกรมอุทยานฯ เบื้องต้นกรมอุทยานฯ มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง