อดีตสายลับรัสเซียมีอาการดีขึ้น พ้นภาวะวิกฤตแล้ว

นางคริสตีน บลันชาร์ด ผู้อำนวยการโรงพยาบาล “ซาลิสบิวรี่ ดิสทริค” เปิดเผยว่า นายเซอร์เก สกรีปาล อดีตสายลับรัสเซียวัย 66 ปี ซึ่งถูกลอบทำร้ายด้วยอาวุธเคมีที่เป็นสารอนุพันธ์ประเภทโนวิชก ที่เมืองซาลิสบิวรี่ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ เมื่อวันที่ 4 มี.ค. มีอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว พ้นภาวะวิกฤตแล้ว ร่างกายสามารถตอบสนองการรักษาเป็นอย่างดี ส่วน น.ส.ยูเลีย บุตรสาววัย 33 ปี แข็งแรงดีขึ้นเป็นลำดับและสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ วันเดียวกัน กระทรวงกิจการภายในอังกฤษแถลงปฏิเสธการลงประทับตราหนังสือเดินทางหรือการออกวีซาให้ น.ส.วิคตอเรีย หลานสาวนายสกรีปาล เนื่องจาก การขอวีซาไม่เป็นไปตามกฎระเบียบการเดินทางเข้าอังกฤษ ขณะที่ น.ส.วิคตอเรีย เปิดเผยว่า แน่ใจว่าเหตุการณ์นี้จะต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว และคิดว่า อังกฤษคงมีเรื่องใดปิดบังอยู่ อย่างไรก็ดี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษแถลงชื่นชมคณะแพทย์ที่ยังให้การรักษานายสกีปาลและบุตรสาวอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งระบุว่า กรณีดังกล่าวเป็นความพยายามฆ่าด้วยการใช้อาวุธเคมี ขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญอาวุธเคมี ระบุว่า ไม่มียาแก้พิษสารโนวิชกโดยเฉพาะ ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า มีความเป็นไปได้ว่าแพทย์คงให้การรักษาโดยใช้ยา “อโทรพีน” ซึ่งมีฤทธิ์ต่อต้านผลกระทบจากสารพิษทำลายประสาท เพื่อประคับประคองอาการ การหายใจ และจังหวะการเต้นของหัวใจ และคาดหวังว่า ร่างกายจะฟื้นตัว

ก่อนหน้านี้ รัสเซีย ปฏิเสธรายงานของ นสพ.เดอะ ไทมส์ของอังกฤษ ที่ระบุว่า สารพิษดังกล่าวมาจากห้องทดลองของทหารในเมืองชิคานี ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมอสโก ยืนยันว่า ไม่มีอาวุธเคมีเก็บที่เมืองแห่งนี้ และรัสเซียไม่เคยมีโครงการพัฒนาอาวุธเคมี นอกจากนี้ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ยังเคยกล่าวเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้วว่า รัสเซียได้ทำลายอาวุธเคมีชุดสุดท้ายไปหมดแล้ว

ทีมต่างประเทศ

CR:www.themalaymailonline.com.,Reuters