สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ฉุดหุ้นสหรัฐ-น้ำมันโลก ร่วงลง สวนทางราคาทอง เพิ่มขึ้น

การลงทุนในตลาดหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 572.46 จุด ปิดที่ 23,932.76 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 58.37 จุด ปิดที่ 2,604.47 จุด แนสแดค ลดลง 161.44 จุด ปิดที่ 6,915.11 จุด นักลงทุน กังวลคำพูดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ขู่จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีกราว 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  ทำให้จีน ตอบโต้กลับด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวไม่ต่างกัน  ถ้าฝ่ายสหรัฐฯเลือกยืนตรงข้ามจีนและประชาคมนานาชาติ ยืนกรานจะลงมือฝ่ายเดียวและกีดกันทางการค้า ฝ่ายจีนก็จะดำเนินการตอบโต้ไปจนถึงที่สุด ไม่ว่าจะเสียหายแค่ไหนก็ตาม ความกังวลว่าความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของสหรัฐฯและจีนอาจนำไปสู่สงครามการค้าเต็มรูปแบบ กระตุ้นให้นักลงทุนหันไปถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและดันราคาทองคำปิดบวกแรง ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 7.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,336.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ทั้งนี้ ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับ จีน ประกอบกับข้อมูลที่ระบุว่ามีแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯเดินเครื่องมากที่สุดในรอบ 3 ปี ในสัปดาห์นี้ ฉุดให้ราคาน้ำมัน ขยับลงหนัก และทำสถิติเป็นสัปดาห์ที่ปิดลบมากที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 1.48 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 62.06 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 1.22 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 67.11 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล โดยน้ำมันทั้งสองสัญญาแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม

นอกเหนือจากแรงกดดันจากข้อพิพาททางการค้าแล้ว ราคาน้ำมันยังถูกซ้ำเติมจากรายงานของเบเกอร์ ฮิวจ์ส ผู้ให้บริการทางพลังงานที่เผยแพร่ เมื่อวันศุกร์ว่ามีแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯเดินเครื่องเพิ่มเติม 11 แท่น เป็น 808 แท่น สูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2015 ตอกย้ำความกังวลเกี่ยวกับกำลังผลิตที่สูงขึ้นเรื่อยๆในสหรัฐฯ

แฟ้มภาพ