สธ.เข้มบังคับใช้กม.คุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงสงกรานต์/กกต.ออกหนังสือรับแจ้งการจัดตั้งพรรคเพิ่ม/สนช.คาด 18 เม.ย.ส่งคำชี้แจงร่างพ.ร.ป.ส.ส.ประกอบคำร้องให้ศาลวินิจฉัย

06 เมษายน 2561, 17:32น.


++นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เมื่อช่วงสงกรานต์ปี 2560 มีอุบัติเหตุคนเสียชีวิต 440 ศพ บาดเจ็บนอนโรงพยาบาล 4,141 คน สูงสุดในวันที่ 13 เม.ย. คิดเป็นร้อยละ 21 ในกลุ่มคนขับรถจักรยานยนต์มากที่สุด และเกิดอุบัติเหตุบริเวณถนนสายรอง ช่วงเวลาที่เกิด 15.00-20.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่กฎหมายอนุญาตให้ขายสุราได้ ทำให้เป็นสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุสูงถึงร้อยละ 43 นอกจากนี้ยังพบว่าในจำนวนผู้บาดเจ็บทั้งหมดนั้นเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี และมีการดื่มสุรา 1,669 คน เพราะฉะนั้น จะเห็นว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุสูญเสียจำนวนมาก ปีนี้จะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์



+++นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า จากข้อมูลความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือดมีผลต่อสมรรถภาพในการขับขี่ของคน โดยพบว่าหากร่างกายมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดที่ 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะทำให้มีผลในการขับขี่เล็กน้อยในบางคน โอกาสในการเกิดอุบัติเหตุใกล้เคียงกับคนที่ไม่ดื่ม ถ้ามีแอลกอฮอล์ในเลือด 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ มีผลทำให้ความสามารถในการขับขี่ลดลงร้อยละ 8 เป็นระดับที่นักวิจัยยอมรับว่าการขับรถเป็นอันตราย โอกาสเกิดอุบัติเหตุเพิ่มเป็น 2 เท่าของคนที่ไม่ดื่ม ถ้าปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดอยู่ที่ 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ มีผลทำให้ความสามารถในการขับขี่ลดลงร้อยละ 12 หลายประเทศต้องใช้กฎหมายควบคุม เพราะมีโอกาสทำให้เกิดอุบัติเหตุเพิ่มเป็น 3 เท่าของคนที่ไม่ดื่ม ถ้าปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 100 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ทำให้ความสามารถในการขับขี่ลดลงร้อยละ 15 การขับขี่แย่ลงอย่างรวดเร็ว มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นเป็น 6 เท่าของคนที่ไม่ดื่ม หากปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูง 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ทำให้ความสามารถในการขับขี่ลดลงร้อยละ 33 โอกาสเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น 40 เท่าของคนที่ไม่ดื่ม และถ้าปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดพุ่งไปที่ 200 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์สมรรถภาพลดลงตามสัดส่วนกับระดับแอลกอฮอล์ ซึ่งไม่สามารถวัดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุได้เพราะควบคุมการทดลองไม่ได้ แต่โอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงมาก



+++กรณีเหตุเพลิงไหม้ราชเทวีอพาร์ทเม้นท์ ท้องที่ สน.พญาไท พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีกรวมแล้วกว่า 200 ปาก โดยในขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาหรือดำเนินคดีต่อผู้ใด ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐาน การตรวจสอบกล้องวงจรปิด สอบปากคำพยาน หนังสือตอบจากวิศวกรรมสถานฯ ผลการตรวจพิสูจน์อื่นๆ มาประกอบในการสอบสวนเพื่อให้ทราบว่าจุดต้นเพลิงมาจากที่ใด และสาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้เกิดจากสาเหตุใด หลังจากนี้พนักงานสอบสวน จะสอบปากคำพยานเพิ่มเติมประกอบในสำนวนการสอบสวน คดีนี้ต้องรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นผลการตรวจพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐาน หนังสือตอบจากวิศวกรรมสถานฯ จึงจะสามารถสรุปได้ว่าเพลิงไหม้เกิดจากสาเหตุใด พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กำชับให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนด้วยความรวดเร็ว ละเอียดรอบคอบ



 



 



+++ความคืบหน้าการพิจารณารับรองคำขอจดจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ของกลุ่มการเมืองต่างๆ จำนวน 98 กลุ่มการเมือง ที่ได้เริ่มยื่นขอจดจัดตั้ง พรรคการเมือง  พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ในฐานะรักษาการนายทะเบียนพรรคการเมือง  เปิดเผยว่า  สำนักงานได้ตรวจสอบเอกสาร หลักฐาน คุณสมบัติของผู้ยื่นขอจดจัดตั้ง  เมื่อวานนี้ นายทะเบียนพรรคการเมืองได้ออกหนังสือรับแจ้งการจัดตั้งพรรคการเมืองเพิ่มอีก 4 พรรคการเมือง คือ พรรคสังคมประชาธิปไตยประชาชน ที่นายเยี่ยมยอด ศรีมันตะ เป็นผู้ยื่นคำขอ พรรคประชาชาติที่นายสุรพล นาควานิช ยื่นขอจัดตั้ง  พรรคพลังพลเมืองไทย ที่นายสัมพันธ์  เลิศนุวัฒน์ ยื่นขอจัดตั้ง  และพรรคประชาภิวัตน์ ที่ยื่นขอจัดตั้งโดย พล.ต.ไชยนาจ  ญาติฉิมพลี



+++พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า  ก่อนหน้านี้นายทะเบียนออกหนังสือรับแจ้งการเตรียมการ  (แบบ พ.ก. 7/2)  แล้ว 9 พรรค  คือ  พรรคทางเลือกใหม่  พรรคกรีน พรรคประชานิยม พรรคพลังสยาม  พรรคพลังชาติไทย  พรรคเครือข่ายประชาชนไทย พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคพลังธรรมใหม่  พรรคประชาชนปฏิรูป  รวมทั้งหมด  13 พรรค  



+++นายกิตติ วะสีนนท์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ฐานะผู้นำยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยร่าง พ.ร.ป.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ส่วนของที่มาและวิธีการได้มาตามบทเฉพาะกาลว่าขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ ว่าตัวเองและผู้ร่วมคณะที่ยื่นคำร้อง 30 คน เตรียมทำคำชี้แจงเพิ่มเติมประกอบคำร้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้ว โดยมีกำหนดวันส่งสุดท้าย คือ 18 เม.ย.นี้ สำหรับรายละเอียดนั้นได้ยึดเนื้อหาของคำร้องที่ได้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญไปในคราวแรก และมีส่วนที่เป็นคำอภิปรายของสมาชิก และสาระที่เพิ่มเติมเพื่อแก้ไขถ้อยคำที่ตกหล่นเท่านั้น โดยยังอยู่ในกรอบและประเด็นที่ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานก่อนที่จะเสนอให้นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.พิจารณาส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ



+++หลังจากที่กรณีอัยการภาค 7 มีความเห็นไม่สั่งฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูต 5 ข้อหาจาก 11 ข้อหา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า วันที่ 9 เม.ย.นี้ จะเรียกพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 มาหารือ หลังพนักงานสอบสวนได้รับหนังสืออย่างเป็นทางการเย็นวานนี้ เบื้องต้นสั่งการให้พนักงานสอบสวนเตรียมหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เช่น ประกาศกฎกระทรวง ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่เกี่ยวข้องกับการขออนุญาตเข้าไปในพื้นที่อุทยาน เพื่อนำมาพิจารณาในข้อหา ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ แม้ประเด็นนี้จะไม่มีบทลงโทษกำหนดไว้ แต่ตามข้อมูลการสอบปากคำพบว่านายเปรมชัย ก็ไม่ได้ทำหนังสือเพื่อขออนุญาตเข้าพื้นที่ตั้งแต่แรก ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดและมีผลผูกพันต่อการฟ้องร้องทางแพ่งที่ตัวแทนกรมอุทยานฯ ได้เข้าร้องทุกข์ไว้



+++ทั้งนี้ ยืนยันว่า จะพิจารณาทำความเห็นแย้ง เพราะมีพยานหลักฐานชัดเจนที่เชื่อว่าเพียงพอจะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้ แต่ต้องสอบถามความเห็นพนักงานสอบสวนอีกครั้งว่าจะทำความเห็นแย้งกี่ประเด็น ซึ่งจะเร่งพิจารณาส่งความเห็นแย้งให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาดไม่เกิน 10 เม.ย.  พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่พนักงานอัยการเห็นด้วยกับข้อหาล่าสัตว์ป่า ที่เน้นชัดไปที่เสือดำ รวมถึงประเด็นที่นายเปรมชัย ร้องขอความเป็นธรรมกับพนักงานอัยการและอัยการได้ชี้แจงว่าประเด็นที่ร้องขอมานั้น ตำรวจได้ดำเนินการครบถ้วนแล้ว ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าตำรวจทำหน้าที่ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แบบ อีกทั้งประเด็นที่พนักงานอัยการแจ้งขอให้ตำรวจดำเนินการเพิ่ม หลังรับสำนวนคดีไปพิจารณา ก็ไม่ใช่การสอบปากคำพยานใหม่ แต่เป็นการขอให้ระบุข้อหาและพฤติการณ์ให้ชัดเจนเท่านั้น ยืนยัน ตำรวจไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับอัยการ เมื่อมีการทำความเห็นมาเป็นหนังสือ ก็ต้องทำหนังสือชี้แจงกลับ



+++บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานสถานการณ์ของอัตราแลกเปลี่ยน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.05-31.35 บาทต่อดอลลาร์ฯ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,725 และ 1,710 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,750 และ 1,760 จุด ตามลำดับ ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ประเด็นต่อเนื่องของมาตรการทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงการปรับพอร์ตของนักลงทุน ก่อนช่วงวันหยุดยาวของตลาดในประเทศ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อื่นๆ ได้แก่ รายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ และดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมี.ค. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.พ. ของยูโรโซน และอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค. ของจีน



+++ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ขอให้สำนักงานผู้แทนการค้าของสหรัฐ (USTR) พิจารณารายการสินค้านำเข้าจากจีนที่สหรัฐฯอาจเรียกเก็บภาษีเพิ่มอีก 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  จากที่ กระทรวงการคลังจีน ประเมินรายการสินค้าของสหรัฐฯ ที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ ซึ่งประกอบด้วยสินค้า 106 รายการใน 14 หมวดสินค้า รวมถึงถั่วเหลือง วิสกี้ รถยนต์ เครื่องบิน อาวุธยุทโธปกรณ์ และเคมีภัณฑ์ โดยรัฐบาลจีน จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐในอัตราร้อยละ 25 ซึ่งเป็นอัตราเดียวกับที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากจีน



+++ตำรวจอังกฤษ เผยแพร่ถ้อยคำของน.ส.ยูเลียวัย 33 ปีเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า เธอฟื้นได้กว่าสัปดาห์แล้ว และเริ่มมีแรงมากขึ้น ก่อนหน้านี้สถานีโทรทัศน์ของทางการรัสเซีย ออกอากาศเทปบันทึกเสียงสนทนาทางโทรศัพท์ที่อ้างว่าเป็นเสียงของน.ส.ยูเลียคุยกับญาติในกรุงมอสโก ในเทปดังกล่าวสตรีที่เรียกตัวเองว่ายูเลีย สกรีปาลพูดว่า หวังว่าจะได้ออกจากโรงพยาบาลในเร็ว ๆ นี้



+++ข้อมูลจากโรงพยาบาล ระบุว่า นายเซอร์เก สกรีปาลวัย 66 ปี ยังคงอาการน่าเป็นห่วง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เขายังไม่รู้สึกตัว



 



แฟ้มภาพ 



 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X