ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.
+++วันนี้ วันจักรี 6 เมษายน ในปีพ.ศ. 2325 เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จปราบดาภิเษกขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี และทรงสถาปนากรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย
+++ส่วนในวันนี้ จะเปิดจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เป็นวันแรกได้จำกัดการจ่ายแลก 1 คน ต่อ 1 ชุด เพื่อให้ประชาชนได้รับอย่างทั่วถึง โดย 1 ชุด ประกอบด้วย เหรียญ 10 บาท 40 เหรียญ เหรียญ 5 บาท 40 เหรียญ เหรียญ 2 บาท 100 เหรียญ เหรียญ 1 บาท 100 เหรียญ เหรียญ 50 สตางค์ 200 เหรียญ และเหรียญ 25 สตางค์ 20 เหรียญ รวมเงินที่จ่ายแลก 1 ชุดมีมูลค่า 1,005 บาท โดยเหรียญ 1 สตางค์ 5 สตางค์ และ 10 สตางค์ จะไม่เปิดจ่ายแลกเนื่องจากไม่ใช้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจแต่ผลิตเพื่อใช้ในทางบัญชีเท่านั้น โดยจะเริ่มเปิดจ่ายตั้งแต่เวลา 08.30-15.30 น. ที่หน่วยรับและจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์กรมธนารักษ์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ ถนนพระรามที่ 6 กทม. หน่วยรับและจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์สำนักบริหารเงินตรา ถนนจักรพงษ์ กทม. หน่วยรับและจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์สำนักบริหารเงินตรา ถนนพหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และศูนย์บริหารจัดการเหรียญกษาปณ์ของกรมธนารักษ์ 6 แห่ง ได้แก่ จ.ขอนแก่น อุบลราชธานี เชียงใหม่ นครสวรรค์ สงขลาและสุราษฎร์ธานี และตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. จะเปิดให้ประชาชนได้จ่ายแลกเป็นปกติ
+++ด้านธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แจ้งว่า ในวันที่ 6 เม.ย. สถาบันการเงินจะเริ่มนำธนบัตรรัชกาลที่ 10 (แบบ 17) ชนิดราคา 20 บาท 50 บาท และ 100 บาท ออกใช้ได้เป็นวันแรก โดยยืนยันว่าธนบัตรแบบเดิมจะไม่มีการยกเลิกโดยออกใช้คู่กันไป สำหรับการจ่ายแลกในวันที่ 6 เม.ย. 61 เป็นวันหยุดราชการประชาชนสามารถเบิกถอนธนบัตรได้ที่สาขาของธนาคารพาณิชย์ที่เปิดให้บริการในวันหยุดตามห้างสรรพสินค้าหรือที่ตู้เอทีเอ็ม ส่วนธนบัตรชนิดราคา 500 บาท และราคา 1,000 บาท จะออกใช้ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในวันที่ 28 ก.ค. เป็นต้นไป.
+++ยังคงต้องติดตามปัญหาทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ซึ่งเมื่อวานนี้ นางรจนา สินที อดีตข้าราชการสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการชำนาญการพิเศษ ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้ดำเนินการลงโทษทางวินัย ในกรณีอื่นๆที่กระทำความผิดเช่นเดียวกับตัวเอง นอกจากนั้นน ยังมีปัญหาการทุจริตที่ ถูกลืมเลือนไป หากกรณีทำให้เกิดปรากฎการณ์เร่งรัดเอาผิด ก็จะเป็นการรักษาผลประโยชน์ของชาติ นางรจนา ยังขอโทษแม่ ขอโทษญาติ ที่สร้างตราบาปในชีวิต โดยคำพูดสะเทือนใจที่ทำให้สำนึกได้มากที่สุด คือ ลูกชายอายุ 30 ปี พูดว่า เกิดเรือง “แม่ติดคุก” ก็ดีเหมือนกัน แม่จะได้ “พักผ่อน”เพราะที่ผ่านมาแม่ไม่เคยหยุดพัก
+++ด้าน นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีบางส่วนทำหนังสือชี้แจงข้อมูลมาแล้ว และบางส่วนส่งทนายความมาขอขยายเวลาการชี้แจงออกไปอีก 15 วัน หรือถึงวันที่ 25 เมษายนนี้ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านมานานแล้ว และมีความซับซ้อนเกี่ยวกับเรื่องเอกสาร ซึ่งตนได้ขยายเวลาให้ ส่วนที่มีข้อมูลเพิ่มเติม พบว่ามีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องในฐานผู้รับโอนเงิน เป็นข้าราชการสังกัดอื่น ซึ่งอยู่ใน จ.ศรีสะเกษ และ จ.บุรีรัมย์ เบื้องต้น 2 ราย และเป็นข้าราชการในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) อีก 1 ราย ซึ่งได้ข่าวว่าข้าราชการสังกัดอื่นทั้ง 2 ราย ได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้บัญชีไว้แล้ว
+++การสืบสวนฯ คืบหน้าไปมากกว่า 90% รอแค่เอกสารยืนยันซึ่งคณะกรรมการสืบสวนฯ ได้นัดหมายว่าจะนำไปส่งมอบให้ ป.ป.ท.ในวันที่ 10 เมษายน เวลา 11.00 น.ที่สำนักงาน ป.ป.ท.เพื่อให้ ป.ป.ท.ไปขยายผลต่อ เพราะบางอย่างเกินความสามารถ เช่น คอมพิวเตอร์ มีไวรัสเยอะ และบางข้อมูลไม่สามารถเปิดดูได้" นายอรรถพลกล่าว
+++พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม.กล่าวว่า การสอบวินัยร้ายแรงนั้น ภายในสิ้นเดือนนี้ก็น่าจะมีความคืบหน้าการสอบรายงานมาให้ หากข้อมูลที่ ป.ป.ท.ส่งมาจะเป็นข้อมูลของผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ระดับ 8 ลงไป ส่วนหากจะมีข้อมูลเชื่อมไปสูงกว่านั้น ป.ป.ท.น่าจะส่งข้อมูลไปยัง ป.ป.ช.ดำเนินการ
+++ด้านนางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กล่าวว่า ป.ป.ท.ได้ส่งข้อมูลรายชื่อข้าราชการพนักงานสังกัด พม.ที่มีส่วนเกี่ยวข้องการทุจริตเงินสงเคราะห์ให้ พส.พิจารณาดำเนินการตามกระบวนการแล้ว มีทั้งหมด 96 รายชื่อ ภายในวันที่ 9 เมษายนนี้ จะทราบผลว่าจะต้องพิจารณาสั่งย้ายและสอบวินัยใครเพิ่ม
++++การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ขอเพิ่มพนักงานให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาแล้ว เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาขาดแคลนบุคลากร โดยเฉพาะด้านปฏิบัติการที่มีสัดส่วนร้อยละ80 แต่เมื่อรถไฟทางคู่เฟสแรก จำนวน 7 เส้นทาง ทยอยแล้วเสร็จในปี 2563-2564 การรถไฟฯ ต้องเพิ่มขบวนรถเป็น 500 คันและต้องเพิ่มบุคลากรเป็น 16,000 คน ดังนั้นจึงต้องรับพนักงานรัฐวิสาหกิจเพิ่มอีก 2,000 คน โดยเฉพาะพนักงานขับรถ และนายสถานี