การตรวจรถตู้โดยสารสาธารณะและรถทัวร์ บริเวณสถานีขนส่งโดยสารกรุงเทพ(เอกมัย) นาย วิวัฒน์ วงศ์ศิริ เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญงาน กองตรวจการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ทั้งรถตู้และรถทัวร์สาธารณะจะตรวจเหมือนกันสองอย่าง คือ ตัวรถ และคนขับรถ ตามหลักเกณฑ์คือ ภายในตัวรถจะตรวจสภาพความพร้อมของรถ เช่น ต้องมีเข็ดขัดนิรภัยทุกที่นั่งในสภาพพร้อมใช้งาน, ดอกยางและส่วนควบของรถอยู่ในสภาพสมบูรณ์ มีถังดับเพลิงและทางออกฉุกเฉิน ที่สำคัญคือ รถโดยสารทุกประเภทจะต้องมีเครื่องจีพีเอสติดตั้งที่ตัวรถ ซึ่งคนขับจะต้องรูดบัตรของตัวเองที่ขึ้นทะเบียนไว้ก่อนที่จะนำรถออกวิ่งทุกครั้งโดยจีพีเอสดังกล่าว จะตรวจจับความเร็ว ที่คนขับรถโดยสารสาธารณะทั้งรถตู้และรถทัวร์ขับว่าเกินกว่า 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือไม่ แล้วคนขับรถขับรถติดต่อกันเป็นระยะเวลากี่ชั่วโมง ซึ่งในรถทัวร์ที่มีการวิ่งระยะไกล คนขับหนึ่งคนจะขับต่อเนื่องได้ไม่เกิน 4 ชั่วโมง หรือไม่เกิน 400 กิโลเมตร และต้องพัก 30 นาที ถ้าพบการทำผิดนี้ กรมการขนส่งทางบกจะทำหนังสือเรียกตัวมาตักเตือนและเปรียบเทียบปรับขั้นสูงสุด ที่ผ่านมามีบ้างที่พบการทำผิด
ส่วนรถตู้จะมีแค่ตรวจวัดความเร็ว ไม่มีการดูการใช้รถติดต่อกันเช่นรถทัวร์ เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้วิ่งในระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร จึงไม่มีการเปลี่ยนคนขับ แต่รถตู้จะมีการตรวจพิเศษอีกอย่างคือ การตรวจว่ามีทางออกฉุกเฉินที่ประตูหลังในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งม.44 ของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) โดยหากพบรถสาธารณะคันใดไม่ติดตั้งเครื่องจีพีเอส จะมีโทษห้ามใช้รถทันที โดยข้อมูลทั้งหมดจากเครื่องจีพีเอสจะถูกส่งตรงไปยังกรมการขนส่งทางบกแบบเรียลไทม์ เพื่อที่กรมการขนส่งทางบกจะได้รู้ข้อมูลและแจ้งเตือนผู้ประกอบการรถได้ทันที หากพบสิ่งผิดปกติ
ด้านคนขับรถ จะตรวจวัดแอลกฮอลล์เป็นหลัก โดยใช้การเป่าผ่านเครื่องตรวจวัดแอลกฮอลล์ ซึ่งจะต้องขึ้นเป็นสีเหลือง ถ้าเป่าแล้วขึ้นเป็นสีส้มหรือสีแดงแสดงว่ามีแอลกฮอลล์ จะต้องเปลี่ยนคนขับใหม่ และตรวจวัดอย่างละเอียดต่อไปว่ามีแอลกฮอลล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ นอกจากนี้จะตรวจสอบว่ามีใบขับขี่หรือไม่ แล้วถ้ามีใบขับขี่หมดอายุหรือผิดประเภทหรือไม่ รวมทั้งจะตรวจการแต่งกายและสภาพความพร้อมของคนขับรถว่าอยู่ในลักษณะที่พร้อมหรือไม่
การตรวจรถทั้งสองประเภทในวันนี้ที่สถานีขนส่งโดยสารเอกมัยไม่พบคนขับรถหรือรถผิดกฎหมายแต่อย่างใด และขอเน้นย้ำให้ผู้โดยสารทุกคนรัดเข็ดขัดนิรภัยทุกครั้งขณะนั่งรถ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร ผสข.