อิสราเอลชะลอการส่งต่อผู้อพยพแอฟริกันไปประเทศที่3

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ประกาศชะลอการบังคับใช้ข้อตกลงที่ทำไว้กับสหประชาชาติ เรื่องการเนรเทศผู้อพยพที่มีสัญชาติแอฟริกาไปยังประเทศตะวันตก และจะไปพบกับกลุ่มผู้อพยพที่อยู่ที่อยู่ในชุมชนทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟก่อนตัดสินใจอีกครั้ง ทั้งนี้ อิสราเอล มีการทำข้อตกลงกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ เรื่องการเนรเทศผู้อพยพที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายจากแอฟริกาจำนวน 38,000 คน โดยมีการประสานงานส่งผู้ลี้ภัย 16,250 คนไปยังหลายประเทศ ที่รวมถึงเยอรมนี อิตาลี และแคนาดา หลังจากที่มาตรการเดิมที่เป็นการจ่ายชดเชยให้ผู้อพยพเดินทางกลับประเทศโดยสมัครใจหมดอายุเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา แต่นโยบายนี้ถูกกลุ่มสิทธิมนุษยชนและชาวแอฟริกันคัดค้านมาโดยตลอด ทั้งมีการยื่นเรื่องต่อศาลสูงสุดเพื่อให้ยับยั้งคำสั่ง เนื่องจากเป็นนโยบายที่แสดงถึงแนวคิดต่อต้านผู้อพยพลี้ภัย

เดอะ เยรูซาเล็มโพสต์ รายงานว่า คำสั่งของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้มีการเผยแพร่ผ่านหน้าเฟซบุ๊กในช่วงดึก ซึ่งทำให้เกิดความสงสัย นายนาฟทาลี เบนเน็ต หัวหน้าพรรคชาวยิว เห็นว่าเป็นการแสดงให้เห็นถึงความพ่ายแพ้ต่อการรณรงค์ที่เป็นเรื่องเท็จผ่านสื่อต่างๆ ที่จะมีผลต่อความน่าเชื่อถือของรัฐบาลเอง ส่วนรัฐมนตรีอิสราเอลหลายคนยอมรับว่า ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน ขณะที่รัฐมนตรีวัฒนธรรม มีความกังวลว่า การที่มีผู้อพยพผิดกฎหมายจำนวนมากจะส่งผลกระทบต่อสภาพสังคมของอิสราเอล

...