กต.แจงญี่ปุ่นเข้าใจเรื่องทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ว่าไม่ถูกต้อง/ผบ.ตร.ดำเนินคดีเด็ดขาดคนที่ลักลอบนำเข้าโรฮิงญา/นายกฯลงปัตตานี 4เม.ย.

+++นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)  เปิดเผยว่า กำลังรอร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่นายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะส่งมาให้สนช.โดยได้ประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการ ให้เตรียมเอกสารแนบ คือ คำร้องของ สนช. 27 คน พร้อมหนังสือนำส่งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยคำร้องดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อไม่ให้กระทบกับโรดแมปเลือกตั้ง ดังนั้น ทันทีที่ร่างกฎหมายมาถึง ก็พร้อมส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญทันทีในเวลาราชการ ภายในวันพรุ่งนี้ (3 เม.ย.) โดยประเด็นที่ สนช.ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมี 2 ประเด็น คือ การตัดสิทธิ์ผู้ไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ห้ามดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองและท้องถิ่น และ การช่วยผู้พิการกาบัตรเลือกตั้งได้ นายพรเพชร มั่นใจว่า ในขั้นตอนนี้ อยู่ในวิสัยที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งรัฐบาล คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)  สามารถร่นระยะเวลาจัดการเลือกตั้งให้น้อยกว่า 150 วัน ได้  สนช. ไม่สามารถไปกำหนดโรดแมปเลือกตั้งได้ แต่ส่วนงานของ สนช. ก็ได้ลดเวลาการสรรหา กกต. จาก 90 วัน เหลือ 70 วัน

+++กรณีปรากฏภาพนายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมงานเปิดตัวหนังสือของอดีตรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ที่กรุงโตเกียว นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า นายทักษิณ เดินทางไปครั้งนี้ในฐานะเพื่อนของอดีตรัฐมนตรีญี่ปุ่น โดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว โดยอดีตรัฐมนตรีคนดังกล่าวเป็นผู้ดำเนินการ กระทรวงการต่างประเทศ ได้สอบถามไปยังประเทศญี่ปุ่นแล้ว และขณะนี้ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ที่อยู่ระหว่างเยือนประเทศญี่ปุ่น คงได้พูดคุยต่อในเรื่องนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่น เข้าใจเรื่องนี้ดี และมีความรู้สึกว่าการให้ผู้ที่กระทำผิดกฎหมายของอีกบ้านเมืองหนึ่งเข้าประเทศเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เขาเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด แต่รัฐบาลญี่ปุ่นไม่เกี่ยวข้อง และไม่ได้เป็นผู้เชิญ เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้พูดถึงเรื่องนี้หรือไม่ นายดอน กล่าวว่า มีอยู่ แต่ไม่ได้เป็นการปรารภโดยตรง เพียงแต่แสดงความห่วงใย

+++พ.อ.หญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 4 เม.ย.พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่ไปตรวจราชการจังหวัดปัตตานี โดยในเวลา 07.00 น. นายกฯพร้อมคณะเดินทางโดยเครื่องบิน C – 130 จากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ไปยังท่าอากาศยานปัตตานี ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จากนั้น เดินทางต่อไปยังสนามกีฬากลางจ.ปัตตานี เพื่อเป็นประธานพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 13 จากนั้น นายกฯจะเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เพื่อติดตามงานด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนการพัฒนาและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้ นายกฯ จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมชุมชนพหุวัฒนธรรม (ไทยพุทธและไทยมุสลิม) ที่อยู่ร่วมกันอย่างสันติ พร้อมพบปะผู้นำศาสนาและประชาชน เพื่อรับทราบปัญหา ข้อเสนอแนะ รวมถึงสร้างการรับรู้ต่อนโยบายและการดำเนินงานของรัฐบาล รวมทั้งเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนในพื้นที่

+++กรณีจับชาวโรฮิงญา ลักลอบเข้าพื้นที่จ.กระบี่ กว่า 50 คน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวว่า จะต้องผลักดันและขยายผล ส่วนตัวเชื่อว่าการลักลอบเข้าเมืองดังกล่าว มาจากปัญหาของประเทศเพื่อนบ้านโดยใช้ไทยเป็นทางผ่านเท่านั้น ยืนยัน หากพบผู้ใดเกี่ยวข้องกับการลักลอบนำเข้าบุคคลต่างด้าว ต้องดำเนินคดีเด็ดขาด โดยเฉพาะหากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ จะมีโทษถึงขั้นให้ออกจากราชการ เพราะเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลในการปราบปรามปัญหาการค้ามนุษย์

+++หลังมีการส่งศพชาวเมียนมาร์ที่ถูกไฟคลอกในรถโดยสารพื้นที่จังหวัดตากจำนวน 20 ศพ มาให้สถาบันนิติเวชวิทยา พิสูจส์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล อยู่ระหว่างประสานญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) หารือร่วมกับพล.ต.ต.ภวัต ประทีปวิศรุต ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมระบุว่า กองพิสูจน์หลักฐาน 6  ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับหน่วยงานอื่น เบื้องต้นยังไม่สามารถยืนยันสาเหตุการเกิดเพลิงลุกไหม้ได้ ส่วนประเด็นต้นเพลิงเกิดจากก้นบุหรี่ถูกทิ้งบริเวณห้องโดยสารชั้นล่างของรถ จนเกิดปฏิกิริยากับคราบน้ำมัน ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ โดยจะเร่งตรวจสอบระบบเปิด-ปิดประตู หลังพบว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวนมากภายในรถ ลักษณะไม่สามารถออกนอกตัวรถได้ ทั้ง 20 ศพ ถูกส่งมาตรวจอัตลักษณ์บุคคล ที่สถาบันนิติเวชวิทยา

+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย เคลื่อนไหวในแดนบวกและลบสลับกัน โดยระหว่างวันมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง แต่ยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาช่วยดันดัชนีกลับมายืนบวกได้ แต่ต้องติดตามกลุ่มโรงกลั่น เนื่องจากมีประเด็นการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นและราคาขายปลีก ที่จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ในวันที่ 5 เม.ย. ส่งผลให้ปิดตลาดที่ 1,782.28 จุด เพิ่มขึ้น 6.02 จุด มูลค่าการซื้อขาย 40,444.88 ล้านบาท

+++ตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียวญี่ปุ่น นักลงทุน เทขายทำกำไร ดัชนีปิดลบ 65.72 จุด  ปิดที่ 21,388.58 จุด

+++วันนี้  ตลาดหุ้นออสเตรเลียและตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดทำการ เนื่องในวัน Easter Monday

+++บีบีซี รายงานอ้างสำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเกาหลีเหนือว่า นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ รู้สึกประทับใจอย่างมากกับการแสดงคอนเสิร์ตเพื่อสันติภาพของเหล่าศิลปินชื่อดังจากวงเคป๊อป,วงร็อคและวงอื่นๆจากเกาหลีใต้ ซึ่งเปิดการแสดงที่โรงละครอีสต์ เปียงยาง แกรนด์ เธียเตอร์เมื่อคืนวานนี้ ระบุว่า หัวใจของผู้นำเกาหลีเหนือพองโตด้วยความดียินดีเมื่อเขาได้เห็นผู้เข้าชมราว 1,500 คนแสดงออกถึงความรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับการแสดงบนเวทีของเหล่าศิลปินจากเกาหลีใต้ สำหรับการแสดงจะมีขึ้นอีกรอบในวันพรุ่งนี้ +++ด้านนายโด จองฮวาน รัฐมนตรีวัฒนธรรมเกาหลีใต้ เปิดเผยกับนักข่าวว่าผู้นำเกาหลีเหนือกล่าวว่าการจัดโครงการแลกเปลี่ยนด้านดนตรีเช่นนี้จะส่งเสริมให้เกิดความสมัครสมานสามัคคีกันระหว่างพลเมืองสองเกาหลีมากยิ่งขึ้น พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าผู้นำเกาหลีเหนือให้ความความสนใจการแสดงดนตรีครั้งนี้เป็นอย่างมาก มีการสอบถามตัวแทนเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้เป็นระยะๆในเรื่องเพลงและเนื้อเพลง การจัดแสดงคอนเสิร์ตครั้งนี้มีขึ้นหลังความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีเริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือส่งคณะนักกีฬา เจ้าหน้าที่และคณะนักแสดง ร่วมการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในเกาหลีใต้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่สำคัญคือผู้นำของประเทศทั้งสองจะร่วมการประชุมสุดยอดที่หมู่บ้านชายแดนปลายเดือนนี้

แฟ้มภาพ