*อาสาสมัครชาวอเมริกันที่ติดเชื้ออีโบลาที่ไลบีเรีย กำลังเดินทางกลับมาที่สหรัฐ*

องค์กรบรรเทาทุกข์คริสเตียนสากล ซิม ยูเอสเอ ที่มีสำนักงานอยู่ที่เมืองชาร์ลอตต์ รัฐนอร์ธคาโรไลนา สหรัฐอเมริกา แถลงว่า ดร.ริค ซัคครา มิชชันนารีอาสาที่ติดเชื้อไวรัสอีโบลา ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ในไลบีเรีย กำลังจะเดินทางกลับมารักษาตัวที่สหรัฐ

ดร.ซัคครา วัย 51 ปี เป็นแพทย์มาจากนครบอสตัน รัฐแมสซาชูเสตส์ อาสาเดินทางไปไลบีเรีย หลังจากทราบว่า นายแพทย์เคนท์ แบรนท์ลีย์ และมิชชันนารี แนนซี ไรท์โบล ป่วยเพราะติดเชื้ออีโบลา โดยทำหน้าที่เป็นสูตินรีแพทย์ และทำคลอดทั้งโดยธรรมชาติและผ่าคลอด แต่ดร.ซัคครา ต้องกลายเป็นชาวอเมริกันคนที่ 3 ที่ติดเชื้อไวรัสอีโบลา ที่มีการแพร่ระบาดร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยเชื้อได้กระจายไปทั่วแอฟริกาตะวันตก ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า เขาติดเชื้อได้อย่างไร ส่วนนายแพทย์แบรนท์ลีย์ และไรท์โบล ได้หายป่วยแล้ว หลังถูกส่งตัวกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเอมมอรี ในนครแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ตัวเลขล่าสุดขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO พบว่า มีผู้ติดเชื้อจากไวรัสอีโบลาในกินี, เซียร์รา ลีโอน ไลบีเรียและไนจีเรีย ไปเกือบ 2,000 คนแล้ว นับตั้งแต่เกิดการระบาดเมื่อต้นปี

ด้านองค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐ(ยูเอสเอด) ออกแถลงการณ์ เรื่องการบริจาคเงิน 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 2,475 ล้านบาท ) ให้กับองค์การอนามัยโลก ( ฮู ) สำหรับใช้ในการจัดหาเครื่องป้องกันทั้งเสื้อคลุม ถุงมือและหน้ากาก ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงการจัดซื้อเตียงผู้ป่วยอีกอย่างน้อย 1,000 เตียง ให้กับโรงพยาบาลในไลบีเรีย ซึ่งเจ้าหน้าที่การแพทย์ยังคงผละงานประท้วงเรื่องการแคลนอุปกรณ์อย่างหนัก  เงินจำนวนนี้ เป็นการบริจาคเพิ่มเติมจากยูเอสเอด หลังเคยมอบ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 660 ล้านบาท ) เมื่อเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่เชื้อไวรัสอีโบลาเพิ่งเริ่มแพร่ระบาดในกินี ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน ส่งผลให้มีผู้ป่วยสะสมแล้วกว่า 3,500 คน และเสียชีวิตแล้วกว่า 1,900 ศพ ในจำนวนนี้ร้อยละ 10 เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข