รมช.เกษตรฯ มีแนวคิดจัดหาห้องเย็นแปรรูปผลผลิตประมงพื้นที่โครงการบางระกำโมเดล จ.พิษณุโลก

31 มีนาคม 2561, 15:01น.


การส่งน้ำให้เกษตรกรทำการเพาะปลูกข้าวนาปี ในพื้นที่โครงการบางระกำโมเดล อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก นายวิวัฒน์ ศัลยกำธรรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เชื่อมั่นว่า การปรับพื้นที่เพาะปลูก จากเดือนพฤษภาคม เป็นเดือนเมษายน โดยการส่งน้ำของกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นอกจากจะช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยช่วงน้ำหลาก ลดความเสียหายจากปัญหาน้ำท่วมเมืองสุโขทัยพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างแล้ว จะทำให้เกษตรกรมีรายได้ จากอาชีพอื่นๆ ทั้งปลูกข้าวและทำประมง เพราะเกษตรกร สามารถทำประมงในช่วงน้ำหลาก





ทั้งนี้ ยังมีแนวคิดจัดหาห้องเย็นเพื่อแปรรูปผลผลิตจากการทำประมงของชาวบ้าน โดยเก็บผลผลิตไว้จำหน่ายในช่วงเวลาราคาดี สร้างรายได้เพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย ขณะที่ ในวันนี้ยังได้พบกับประชาชนและมอบนโยบายให้กับเจ้าหน้าที่ โดยเน้นว่าให้ทุกฝ่ายปรับตัว ปรับวิธีคิดให้ทันต่อสถานการณ์ รวมไปถึงประชาชนที่ต้องปรับเปลี่ยนการทำนาให้เร็วขึ้น พร้อมเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่และประชาชน หมั่นแลกเปลี่ยนข้อมูล สื่อสารทำความเข้าใจกันให้มากๆ





ด้านนายชลอม วันประยูร เกษตรกรหมู่ที่ 10 ตำบลท่าช้าง อำเภอพรหมพิรามจังหวัดพิษณุโลก เล่าว่า หลังกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่งน้ำในวันนี้แล้ว พรุ่งนี้ก็มีความพร้อมทำนาปีตามกรอบระยะเวลาที่กรมชลประทานกำหนด และทำให้เสร็จสิ้นในเดือนกรกฏาคม เช่นเดียวกับปีที่แล้ว ซึ่งสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวจากเดือนละ 5,000 บาท เป็น 7,000 บาท





นายชลอม เล่าถึงการเข้าร่วมโครงการปีที่แล้วว่า ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบเรื่องน้ำเหมือนปีก่อนๆ ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมสูง ได้รับความเดือดร้อนจนไม่สามารถเกี่ยวข้าวได้ ไม่มีรายได้เลี้ยงครอบครัว และยังประสบปัญหาการแย่งใช้น้ำจากเกษตรกรในพื้นที่เดียวกันอีก อีกทั้งยังมีอาชีพเสริมหาปลา ที่ได้รับการสนับสนุนจากกรมประมง นำปลามาปล่อย ให้ชาวบ้านจับปลาทำอาหารในครัวเรือน และนำไปขาย จึงไม่เดือดร้อนตอนน้ำท่วม





ผู้สื่อข่าว: เกตุกนก ครองคุ้ม



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X