รัสเซีย เนรเทศทูตกว่า 23 ประเทศ หลังคดีวางสารพิษฆ่าอดีตสายลับเริ่มบานปลาย

บีบีซี รายงานอ้างสำนักข่าวสปุตนิกส์ของทางการรัสเซียว่า รัฐบาลรัสเซีย สั่งเนรเทศทูตกว่า 23 ประเทศเพื่อตอบโต้หลังจากประเทศต่างๆ สั่งเนรเทศทูตรัสเซีย เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับรัฐบาลอังกฤษ เนื่องจาก รัสเซีย ถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังการลอบวางสารพิษเพื่อมุ่งสังหารนายเซอร์เก สกริปาล วัย 66 ปี อดีตสายลับสองหน้าชาวรัสเซีย และน.ส.ยูเลีย ลูกสาววัย 33 ปี เหตุเกิดที่หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองซอลส์บรีทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ เมื่อวันที่ 4 มีนาคม

ทูตที่ถูกรัฐบาลรัสเซีย สั่งเนรเทศในครั้งนี้รวมถึงทูตยูเครน 13 คน ทูตจากแคนาดา โปแลนด์และเยอรมนี ประเทศละ 3 คน ทูตจากลิทัวเนีย สาธารณรัฐเชคและมอลโดวา ประเทศละ 3 คน ทูตจากอิตาลี เนเธอร์แลนด์ สเปนและเดนมาร์ก ประเทศละ 2 คน ทูตจากฟินแลนด์ ลัตเวีย สวีเดน นอร์เวย์ โรมาเนีย โครเอเชีย ไอร์แลนด์ ประเทศละหนึ่งคน และอุปทูตทหารของเอสโตเนีย 1 คน  มาตรการดังกล่าวมีขึ้น 1 วันหลังรัฐบาลรัสเซีย สั่งเนรเทศทูตสหรัฐฯ 60 คนและสั่งปิดสถานกงสุลสหรัฐฯในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เพื่อตอบโต้กรณีสหรัฐฯเนรเทศทูตรัสเซียในจำนวนเท่ากันเมื่อวันจันทร์ พร้อมทั้งระบุว่า สหรัฐฯสั่งเนรเทศทูตรัสเซีย 60 คนและสั่งปิดสถานกงสุลรัสเซียในเมืองซีแอตเทิล

ก่อนหน้านี้ ประเทศต่างๆกว่า 20 ประเทศสั่งเนรเทศทูตรัสเซีย เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับรัฐบาลอังกฤษที่สั่งเนรเทศทูตรัสเซีย 23 คนเมื่อวันที่ 14 มีนาคม หลังการกล่าวหารัสเซียในประเด็นการลอบวางสารพิษชนิดทำลายประสาท สำหรับความคืบหน้าด้านการดูแลอาการป่วย แพทย์หญิงคริสติน แบลนชาร์ด ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ประจำโรงพยาบาลเมืองซอลส์บรี ระบุในแถลงการณ์ว่าน.ส.ยูเลีย เริ่มมีอาการดีขึ้นโดยลำดับพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่นายสกริปาล ยังไม่พ้นขีดอันตราย อาการทรงตัวและต้องเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด

ทีมต่างประเทศ

CR:www.krdo.com, www.abc57.com.,CNN