รอยเตอร์ รายงานอ้างนางมาห์ซา ข่านบาไบ ทนายความชาวอเมริกัน ซึ่งรับทำหน้าที่ทนายความให้กับชาวอิหร่านครอบครัวหนึ่งว่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ได้อนุมัติวีซ่าให้กับนายคาเมียร์ ฮาเชมี หลังการยื่นเรื่องขอวีซ่ากับสถานทูตสหรัฐฯในกรุงเยเรวาน อาร์เมเนีย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ขอเดินทางเข้าไปที่สหรัฐฯเพื่อบริจาคไขสันหลังให้กับพี่ชาย ที่ได้รับสัญชาติอเมริกัน และป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว
กรณีนี้นับว่าเป็นกรณีที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักที่รัฐบาลสหรัฐฯ จะยกเว้นการปฏิบัติตามคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรื่องการห้ามพลเมืองจาก 8 ประเทศรวมถึงอิหร่าน เดินทางเข้าสหรัฐฯ ทนายความ เปิดเผยว่า เธอได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่กงสุลสหรัฐฯประจำกรุงเยเรวาน ว่าสถานทูตสหรัฐฯ อนุมัติวีซ่าให้นายฮาเชมี เรียบร้อยแล้วหลังทราบว่านายฮาเชมี สามารถช่วยเหลือพี่ชายที่ป่วยได้ ซึ่งอาจจะช่วยให้คณะแพทย์ที่รักษาผู้ป่วยรายนี้สามารถนำไขกระดูกที่เขาขอบริจาคไปทำการปลูกถ่ายอวัยวะเพื่อช่วยให้พี่ชายหายจากมะเร็ง เจ้าหน้าหน้าที่กงสุลสหรัฐฯ แนะนำให้นายฮาเชมี เดินทางไปรับวีซ่าที่กรุงเยเรวาน จะได้เดินทางไปสหรัฐฯโดยเร็ว
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ลงนามในคำสั่งเมื่อกลางปีที่แล้ว ห้ามพลเมืองจาก 8 ประเทศ รวมถึงอิหร่าน ลิเบีย ซีเรีย เยเมน โซมาเลีย ชาด เวเนซุเอลาและเกาหลีเหนือ เข้าสหรัฐฯ ส่งผลให้ผู้เสียหายหลายรายฟ้องคดีต่อศาล ต่อมาศาลฏีกาอนุญาตให้คำสั่งฝ่ายบริหารฉบับนี้เริ่มมีผลใช้บังคับแต่วันที่ 8 ธันวาคมปีที่แล้ว พร้อมทั้งอนุญาตให้เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถจะใช้ดุลยพินิจยกเว้นให้ผู้ยื่นขอวีซ่าเดินทางเข้าสหรัฐฯเป็นรายๆไป ที่ผ่านมา กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯได้อนุมัติวีซ่าให้เป็นกรณีพิเศษสำหรับผู้ยื่นขอวีซ่าจาก 8 ประเทศดังกล่าวแล้วกว่า 375 ราย
ทีมต่างประเทศ
CR:Reuters