นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของสหราชอาณาจักร เปิดเผยกับนักข่าวก่อนไปเยือนสก็อตแลนด์ เวลส์และไอร์แลนด์เหนือในวันนี้ เพื่อพบปะพูดคุยทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่นั้นในโอกาสที่เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนสหราชอาณาจักรจะเริ่มถอนตัวจากกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ภายใต้ข้อตกลงเบร็กซิตอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มีนาคมปีหน้า ระบุว่า รัฐบาลจะให้คำมั่นกับประชาชนในพื้นที่นั้นว่า รัฐบาลมุ่งมั่นจะทำให้ประเทศมีความเข้มแข็ง และเป็นปึกแผ่นมากยิ่งขึ้นในยุคหลังเบร็กซิต
ผู้นำสหราชอาณาจักรระบุว่าข้อดีของเบร็กซิตคือรัฐบาลสหราชอาณาจักรจะสามารถบังคับใช้กฎหมายภายในของตนเองแทนการใช้กฎหมายของกลุ่มอียู ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสหราชอาณาจักรมีอำนาจควบคุมเรื่องชายแดนและการเงินการคลังของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่สำคัญคือทุกคนจะได้รับประโยชน์จากเบร็กซิต ไม่ว่าพวกเขาจะลงประชามติสนับสนุนเรื่องนี้หรือไม่ก็ตาม แม้ว่าปัญหาเรื่องชายแดนของไอร์แลนด์เหนือยังคงไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน แต่นางเมย์จะให้คำมั่นแก่ประชาชนในท้องถิ่นนั้นว่าจะไม่มีการสร้างรั้วกั้นชายแดน
ที่สำคัญคือรัฐบาลจะยังคงใช้ระบบสหภาพศุลกากรระหว่างตลาดร่วมภายในของอังกฤษกับอีก 3 ประเทศในเครือสหราชอาณาจักรคือสก็อตแลนด์ เวลส์และไอร์แลนด์เหนือ ก่อนหน้านี้ ทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในเรื่องเบร็กซิตหลังเริ่มการเจรจาเมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อน แต่เรื่องที่ทั้งสองฝ่ายจะต้องหารือกันต่อไปคือการทำข้อตกลงเรื่องสัมพันธ์ทางการค้าอียู-สหราชอาณาจักรในยุคหลังเบร็กซิต