ป.ป.ท.ประชุมทุจริตเงินคนไร้ที่พึ่ง/รมว.แรงงาน สั่งช่วยชาวอุตรดิตถ์ถูกหลอกทำงานประมง15ปี /ยกฟ้อง ธาริต หมิ่น สุเทพ คดีสร้างโรงพักทดเเทน

+++คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (บอร์ด ป.ป.ท.) ร่วมประชุมที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท. ) เพื่อพิจาณาสำนวนการตรวจสอบข้อเท็จริงการทุจริตเบิกจ่ายเงินสงเคราะห์ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง พร้อมแผนประทุษกรรมที่ตรวจสอบพบ ซึ่ง ป.ปท.เสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ท.พิจารณาเพื่อลงมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนความผิดทางอาญากับผู้อำนวยการศูนย์และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตจำนวน9 จังหวัด14สำนวน สำหรับภาพการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ประจำปี พ.ศ.2560 ประเภทเงินอุดหนุนเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) 76 แห่ง วงเงินงบประมาณทั้งสิ้น 123,159,000 บาท  พบความผิดปกติ จำนวน  53 จังหวัด งบประมาณ 107,049,000 บาทหรือคิดเป็นร้อยละ 87 ของงบประมาณศูนย์คุ้มครองฯ  ในภาพรวมภาคอีสาน 20 จังหวัด พบหลักฐานส่อทุจริตครบทั้ง 20 จังหวัด

+++คณะกรรมการ ป.ป.ท. รับไว้ไต่สวนแล้วจำนวน  9 จังหวัด ประกอบด้วย ขอนแก่น เชียงใหม่ บึงกาฬ หนองคาย สุราษฎร์ธานี ตราด น่าน เชียงราย อุบลราชธานี อยู่ระหว่างตรวจสอบ จำนวน 23 จังหวัด คิดเป็นร้อยละ13 ของงบประมาณศูนย์คุ้มครองฯ 

+++ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดกระบี่และเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดกระบี่คุมตัวนายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์กุล หรือ บังฟัต กับพวกอีก 5 คน ฝากขังที่เรือนจำกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากเมื่อวานนี้  ศาลจังหวัดกระบี่ พิพากษาลงโทษประหารชีวิตทั้ง 6 คน ในคดีฆ่านายวรยุทธ สังหลัง อดีตผู้ใหญ่บ้านเขางาม หมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พร้อมครอบครัวและญาติรวม 8 ศพ 

+++ศาลอาญา ได้อ่านคำพิพากษา คดีดำ อ.47 /2561 ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ฟ้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ.) , บริษัท มติชน จำกัด , นายวรศักดิ์ ประยูรศุข บรรณาธิการ นสพ.มติชน , บริษัท ข่าวสด จำกัด และนายสุริวงศ์ เอื้อปฏิภาณ บรรณาธิการ นสพ.ข่าวสด เป็นจำเลยที่ 1-5 ฐานร่วมกันหมิ่นประมาท กรณีที่พวกจำเลยกล่าวหาใส่ร้ายทำนองว่าโจทก์ ขณะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ทำเรื่องขอเปลี่ยนแปลงโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ 396 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบและเป็นเรื่องเท็จ ทำให้โจทก์เสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง จึงนำคดีมาฟ้อง ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย  เมื่อถึงเวลานัด จำเลยทุกคนเดินทางมาศาล ขณะที่โจทก์ มีทนายความ ผู้รับมอบอำนาจจากนายสุเทพ มาศาล

+++ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายเเล้วเห็นว่า นายสุเทพ โจทก์ ได้มีการเปลี่ยนสัญญาเเก้ไขโครงการก่อสร้างโรงพักทดเเทน 396 เเห่งทั่วประเทศ ซึ่งเป็นสัญญาเดียวจากที่สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง เคยทำความเห็นเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) เป็นรายภาค เเละ ครม.เห็นชอบด้วยกับสำนักงบประมาณ  การที่นายสุเทพ โจทก์ มีการแก้ไขสัญญาเป็นสัญญาเดียว นายธาริต จำเลย เป็นเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติตามหน้าที่ในฐานะอธิบดีดีเอสไอ ย่อมมีอำนาจแถลงข่าวการตั้งข้อสงสัยเเละเชิงตรวจสอบแก่สื่อมวลชนในเรื่องดังกล่าวได้ เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ เเละเป็นการให้ข่าวที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน  ส่วนจำเลยที่ 2-5 เป็นสื่อมวลชนที่มีการนำเสนอข่าว ได้เสนอข้อเท็จจริงตามที่นายธาริต จำเลย ที่ 1 ได้เเถลงข่าว จึงเป็นการกระทำโดยสุจริต ติชม เพื่อความเป็นธรรม โดยที่พวกจำเลยไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับโจทก์มาก่อน การกระทำของพวกจำเลยย่อมไม่เป็นผิด พิพากษายกฟ้อง

+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว(นบข.) กล่าวว่า ได้รับคำชี้แจงจากกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับสถานการณ์ข้าว และได้ขอบคุณคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว ที่ทำหน้าที่ด้วยความเรียบร้อย และขอให้ระมัดระวังเรื่องข้อกฎหมายต่าง ๆ เพราะรัฐบาลยังต้องการแก้ปัญหาเรื่องระบายข้าวให้เป็นไปตามกลไกอย่างแท้จริง วาระการประชุมวันนี้ คาดจะมีการหารือปริมาณข้าวที่เหลือในสตอกของรัฐอีกประมาณ 2 ล้านตันใน 3 กลุ่ม คือ ข้าวเพื่อการบริโภค 40,000 ตัน ข้าวที่คนบริโภคไม่ได้ แต่สัตว์สามารถบริโภคได้ ปริมาณ 1.5 ล้านตัน และข้าวที่คนและสัตว์ไม่สามารถบริโภคได้ อีกประมาณ 500,000 ตัน โดยกรมการค้าต่างประเทศ มีแผนที่จะนำออกมาระบายสู่ภาคอุตสาหกรรม ตั้งแต่เดือนเมษายนนี้ เพื่อลดภาระการจัดเก็บรักษาเดือนละ 120-130 ล้านบาท

+++นางเพชรรัตน์ สินอวย รองปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กำชับให้กระทรวงแรงงาน ตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือนายเถลิง ยงพูเขียว อายุ 54 ปี ชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ แรงงานไทยถูกหลอกไปทำงานในเรือประมง เป็นเวลา 15 ปี นายเถลิง ออกจากบ้านไปทำงานรับจ้างต่างจังหวัด ก่อนถูกนายหน้าคนไทยไม่ทราบชื่อ ชักชวนไปทำงานเป็นคนงานในเรือประมงเมื่อปี พ.ศ. 2545 โดยตกลงค่าจ้างเป็นรายเดือนๆ ละ 8,500 บาท มีเงื่อนไขว่าให้กลับขึ้นฝั่งได้เดือนละ 1 ครั้ง จึงตกลงไปทำงานด้วย จากนั้นนายหน้าคนดังกล่าวจึงได้พานายเถลิง และคนงานอื่นๆ จำนวน 10 คน ทั้งคนไทยและคนเมียนมา เดินทางไปขึ้นเรือที่จังหวัดพังงาในเวลากลางคืน สภาพการทำงานเป็นการทำงานบนเรือประมงลากอวนขนาดใหญ่ทั้งวันทั้งคืน ไม่มีการลงเวลาทำงาน ไม่มีวันหยุด นายจ้าง จัดอาหารให้จำกัดรวม 3 มื้อ และได้ยึดบัตรประจำตัวประชาชนไว้ตั้งแต่ขึ้นเรือ ต่อมาประมาณเดือนกันยายนหรือตุลาคม 2560 ได้มีเรือเล็กเข้าไปรับนายเถลิง พร้อมด้วยลูกเรือประมงรวม 20 คน กลับเข้าฝั่งจังหวัดพังงาในเวลากลางคืน เพื่อสับเปลี่ยนลูกเรือประมงชุดใหม่ เมื่อขึ้นฝั่งนายเถลิง และลูกเรืออื่นๆ จึงแยกย้ายกัน โดยไม่ได้รับเงินค่าจ้างหรือเงินอื่นใด รวมระยะเวลาที่อยู่บนเรือประมงประมาน 15 ปี

+++นางเพชรรัตน์  กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานในพื้นที่ ตรวจเยี่ยมที่บ้านของนายเถลิง เพื่อให้ความช่วยเหลือ โดยได้มอบหมายให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ประสานให้ความคุ้มครองตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน การถูกเอารัดเอาเปรียบ รวมถึงประเด็นการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน หรือประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง กรมการจัดหางาน ดำเนินการประสานให้ความช่วยเหลือด้านการประกอบอาชีพ และจัดหาตำแหน่งงานตามที่มีความถนัดให้ทำ

+++รมว.แรงงาน ยังได้มอบหมายให้สำนักงานประกันสังคมรับผิดชอบดูแลเกี่ยวกับการรับเข้าระบบประกันสังคม หากมีความประสงค์จะเป็นผู้ประกันตน ทั้งนี้ ยังได้กำชับให้ทุกหน่วยงานในกระทรวงแรงงานบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบด้าน เพื่อให้ความช่วยเหลือและหามาตรการเยียวยาแก่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อการใช้แรงงานอย่างผิดกฎหมาย ให้มีความเป็นอยู่และมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป หากพบเห็นแรงงานถูกเอาเปรียบ แจ้งได้ที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 3 กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน

+++เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้ เปิดการเจรจาระดับสูงกับเกาหลีเหนือ บริเวณเขตปลอดทหารในวันนี้ เพื่อเตรียมการสำหรับการประชุมสุดยอดระหว่างสองเกาหลี หลังจากนายคิม จอง อึนผู้นำเกาหลีเหนือเดินทางเยือนจีน นายคิม มีกำหนดพบปะกับประธานาธิบดีมุน แจอินของเกาหลีใต้ ในเดือนหน้า ก่อนการประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีโดนัลด์  ทรัมป์ของสหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคม

+++สำหรับการหารือในวันนี้ระหว่างนายโช  มยอง-กยอน รัฐมนตรีกระทรวงรวมชาติเกาหลีใต้กับคณะผู้แทนของเกาหลีเหนือ ซึ่งนำโดยนายรี ซอน กวอน ประธานคณะกรรมการเพื่อการรวมชาติอย่างสันติ มีวาระสำคัญคือ การประชุมสุดยอดครั้งที่ 3 ระหว่างสองเกาหลี ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า นายหยาง เจี๋ยฉือ มนตรีแห่งรัฐของจีนก็จะเดินทางไปยังกรุงโซลเพื่อสรุปผลการเยือนจีนของผู้นำเกาหลีเหนือ

แฟ้มภาพ