กรุงเทพประกันภัย มั่นใจประกันวินาศภัยปีนี้โตร้อยละ 5 หลังกำไรสุทธิกว่า2พันล้านบาท

แนวโน้มธุรกิจประกันวินาศภัยในปี 2561 ของบริษัทกรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI  นายพนัส ธีรวณิชย์กุล กรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI กล่าวว่า ในปี 2560 ความเคลื่อนไหวของตลาดในภาพรวม มีสัญญานเศรษฐกิจดีขึ้น โดยการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.70 มากกว่าปี 2559 และคาดว่าปีนี้จะมีการขยายตัวถึงร้อยละ 3.90 ส่วนเศรษฐกิจของไทยคาดว่าปีนี้ GDP จะขยายอยู่ที่ร้อยละ 4.10 เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ร้อยละ 3.90  ซึ่งถือเป็นการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปีนี้ที่มีการลงทุนภาครัฐและเอกชนเป็นจำนวนมาก ขณะที่ยอดการจำหน่ายรถยนต์ภายในประเทศในประเทศปี 2560 เพิ่มร้อยละ 13.40 หรือ 871,644 คัน และในปีนี้คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องโดยขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.40 หรือ 900,000 คัน ทำให้คาดการณ์ว่าในธุรกิจประกันภัยวินาศภัยปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 5 โดยมีเบี้ยประกันภัยรับตรง 219,581 ล้านบาท ส่วนด้านNon-Motor หรือการประกันภัยประเภทอื่นๆ นอกจากประกันภัยรถยนต์ ก็คาดว่า จะเติบโตด้วยเช่นกัน

ด้านนายอภิสิทธ์ อนันตนาถรัตน กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทกรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2560 บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 15,940.9 ล้านบาท ลดลงจากปี 2559 ร้อยละ 0.6 แต่มีกำไรสุทธิจากการรับประกันหลังหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและต้นทุนทางการเงิน 1,396.4 ล้านบาท มีกำไรก่อนหักภาษีเงินได้ 2,762.3 ล้านบาท เมื่อหักภาษีเงินได้แล้ว มีกำไรสุทธิ 2,403.1 ล้านบาท

ขณะที่ทิศทางในปี 2561 ตั้งเป้าเติบโตที่ร้อยละ 5 คิดเป็นเบี้ยประกันภัยรับรวม 16,800 ล้านบาท ปัจจัยเนื่องจากมีแนวโน้มเศรษฐกิจที่เป็นไปในทางบวก  ซึ่งบริษัทกรุงเทพประกันภัยจะเน้นรองรับตลาดที่ลงทุนจากภาครัฐ ซึ่งบริษัทจะได้รับประกันภัยในโครงการเหล่านี้ และเน้นในส่วนรายย่อยทั้ง Motor และ Non- Motor  โดยเฉพาะประกันภัยรถยนต์ที่ยังมียอดการเติบโต พร้อมมุ่งเน้นการประกันภัยรถยนต์ขยายสู่ภูมิภาค ทั้งอัตราการเสียหาย ราคาค่าซ่อม ระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค อีกทั้งบริษัทกรุงเทพประกันภัยยังจะเข้าไปขยายการประกันภัยในกลุ่มรถบรรทุก ในด้านพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม ที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 4 ตันขึ้นไป

สำหรับ บริษัทกรุงเทพประกันภัย ยังขยายการประกันภัยแบบใหม่หมวดอื่น ๆ เช่น การประกันภัยรองรับความเสี่ยงของอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ หรือประกันภัยโดรน รวมถึงในปีนี้ยังได้ออกกรมธรรม์ประกันภัยสวนทุเรียนที่ถือเป็นบริษัทประกันภัยรายแรกที่รับประกันภัย โดยจะประกันต่อต้น 7,500 บาท รวมผลทุเรียนด้วย ราคา 15,000 บาท ซึ่งจะพยายามขยายออกไปในพื้นที่ต่างๆมากขึ้น ให้สามารถตอบโจทย์ในการช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของเกษตรกร และคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีด้วย

เกตุกนก ครองคุ้ม