เอเอฟพีรายงานอ้างแหล่งข่าวตำรวจฝรั่งเศสว่าตำรวจหน่วยปราบปรามก่อการร้ายเพิ่งมีหมายเรียกให้นายราดวน ลักดิม พลเมืองฝรั่งเศสเชื้อสายโมรอกโกวัย 25 ปี ไปพบกับตำรวจเพื่อทำการสอบปากคำ 1 สัปดาห์ก่อนที่เขาจะลงมือเหตุกราดยิงคนในห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์ยู ในเมืองแทรบส์ เมืองเล็ก ๆ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศสเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว มีคนเสียชีวิต 4 ศพและบาดเจ็บอีก 4 คน ก่อนหน้านี้คนร้ายซึ่งเป็นชาวมุสลิม อยู่ในบัญชีรายชื่อของกลุ่มคนแนวคิดหัวรุนแรงมานับตั้งแต่ปี 2557และถูกเฝ้าระวังเรื่อยมา เป็นเหตุให้นักการเมืองบางคน รวมถึงนางมารีน เลอ แปน จากพรรคการเมืองแนวคิดขวาจัด ตำหนิเรื่องการทำงานของหน่วยข่าวกรองฝรั่งเศสว่า บกพร่องที่ไม่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงครั้งนี้ ตำหนิรัฐบาลประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ว่าด้อยประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหานี้กลุ่มหัวรุนแรงในฝรั่งเศส พร้อมทั้งเรียกร้องให้นายเจอร์ราด โคลลอมบ์ รัฐมนตรีความมั่นคงภายในของฝรั่งเศสให้ลาออก
สำหรับคนร้ายรายนี้ถูกตำรวจทำวิสามัญฆาตกรรม ในวันเกิดเหตุคนร้ายกราดยิง 3 แห่งในเมืองคาร์แคสซอน ที่อยู่ห่างจากเมืองแทรบส์ชั่วเวลาขับรถ 15 นาที ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายบุกจับตัวประกันในห้างฯก่อนถูกตำรวจทำวิสามัญฯดังกล่าว แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่านายลัคดิม ได้ส่งจดหมายฉบับหนึ่งไปสำนักงานข่าวกรองภายในหรือดีจีเอสไอของฝรั่งเศสเมื่อเดือนมีนาคม ขออนุญาตให้เขาได้พบปะกับผู้แทนจากสำนักงาน ดีจีเอสไอ ต่อมาหลังเกิดเหตุรุนแรงดังกล่าวแล้ว ตำรวจจับกุมแฟนสาววัย 18 ปีของนายลัคดิม ซึ่งเปลี่ยนมานับถืออิสลามและเริ่มมีแนวคิดฝักใฝ่หัวรุนแรงและเพื่อนวัย 17 ปีอีกรายหนึ่ง
ด้านประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสจะจัดพิธีไว้อาลัยในวันพรุ่งนี้เพื่อยกย่องวีรกรรมของนายอาร์โนด์ เบลทราม ตำรวจวัย 45 ปี กรณีตำรวจรายนี้ยอมให้คนร้ายจับตัวเขาเป็นตัวประกันเพื่อแลกกับการปล่อยตัวผู้หญิงรายหนึ่งในช่วงเกิดเหตุ ต่อมาตำรวจรายนี้ถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดกรีดลำคอเสียชีวิต ด้านผู้เชี่ยวชาญระบุว่ามีสมาชิกมุสลิมหัวรุนแรงราว 2 หมื่นคนในฝรั่งเศส ตั้งข้อสังเกตว่าหน่วยงานความมั่นของฝรั่งเศสสามารถสกัดแผนโจมตีได้หลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมีการบังคับใช้กฏหมายก่อการร้ายฉบับใหม่ที่มีบทลงโทษรุนแรงมากขึ้น