ทุจริตกองทุนเสมามีทุกปี/29 มี.ค.ปปท.ขอระเบียบอนุมัติทุน/จีนใช้หมอนทองเครืองหมายการค้า

27 มีนาคม 2561, 19:57น.


สรุปข่าว 19.35 น.



+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 73/2561 ลงวันที่ 27 มี.ค.2561 เรื่องให้ข้าราชการมาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี รวม 14 รายที่มีรายงานเบื้องต้นว่า มีส่วนกระทำความผิดด้านการค้ามนุษย์  มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรีในระหว่างการสืบสวนข้อเท็จจริงและการดำเนินการทางวินัยโดยความผิดวินัยอย่างร้ายแรงหรือทางอาญา โดยไม่ขาดจากอัตราเงินเดือนทางสังกัดเดิม และให้อยู่ในการกำกับดูแลของปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกันให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) หรือหน่วยงานต้นสังกัดโยกย้ายข้าราชการเหล่านี้ออกจากตำแหน่งเดิมไปสู่หน่วยงานที่ไม่เกี่ยวกับการดำเนินการเรื่องการค้ามนุษย์ โดยไม่เลื่อนตำแหน่งหรือยศสูงขึ้น จนกว่าจะมีคำสั่งสำนักนายกฯเป็นประการอื่น ดังนี้ 1.พ.ต.อ.นคร พักไพโรจน์ 2.พ.ต.อ.พิศุทธิ์ ศุกระศร  3.พ.ต.ท.กิตติชัย โถวิเชียร  4.ร.ต.อ.หญิง จริยาภรณ์ พ่วงพี่ดี 5.ร.ต.ท.ยุทธพล อนันตวิเชียร 6.ร.ต.ท.สมปอง หีบแก้ว 7.ร.ต.ท.สุรศักดิ์ ชาญขุนทด 8.ร.ต.ต.กัมปนาท สาเกทอง  9.ด.ต.วิชัยรัตน์ มงคลเคหา 10.ด.ต.สมศักดิ์ หวังมีสุข 11.ด.ต.อนันต์ สมศรี 12.ด.ต.อภินันท์ แก้วผล 13.จ.ส.ต.วโรดม วรพันธ์ และ 14.นายเจริญ ศรีพรม ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านนาน้อย อ.ภูเรือ จ.เลย



+++การตรวจสอบการทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต  นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตเปิดเผยว่า ขณะนี้การสืบข้อเท็จจริงมีความคืบหน้าแล้วกว่าร้อยละ 70 ล่าสุดพบว่าในปี 2550 มีปลอมแปลงเลขที่บัญชี 3 บัญชี ขณะที่ในปี 2551 มีการปลอม 14 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีเดิมที่ค้นพบใน 22 บัญชี ขณะเดียวกันพบว่าในปี 2551 และ 2553 พบการโอนเงินกองทุนเข้าบัญชีที่เปลี่ยนชื่อสถานศึกษา จากโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ จากข้อมูลเบื้องต้น จึงเป็นที่ยืนยันได้ว่ามีการทุจริตเงินมากกว่า 88 ล้านอย่างแน่นอน แม้ยังสรุปไม่ได้ว่าเงิน 30 ล้านจะมีการทุจริตทั้งหมดหรือไม่ แต่ประเมินว่าเป็นการทุจริตร้อยละ 40 ของเงิน 30 ล้านบาทและผู้กระทำผิดยังเป็นคนเดิม 



+++นอกจากนี้ ตั้งแต่มีการตรวจสอบบัญชีเมื่อปี 2550 จนถึงปัจจุบัน ยังไม่พบว่าปีไหนไม่มีการทุจริต และมีแนวโน้มทุจริตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พบว่าบางปียังมีการทุจริตเงินแบบร้อยเปอร์เซ็นต์  คือ ไม่มีเงินถูกส่งไปยังสถานศึกษาเลย ขณะเดียวกัน ยังพบพฤติการณ์การโอนเงินย้อนหลัง และโอนเงินหลายครั้งต่อปีจนผิดสังเกต รวมแล้วทั้งหมด 36 ครั้ง จากปกติที่ต้องโอนปีละ 1 ครั้ง  ในวันที่ 29 มีนาคมนี้ ทางคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงการทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต จะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลตั้งแต่ระดับอดีตปลัดกระทรวงและคนที่อยู่ในเส้นทางการเงินกว่า 50 คน เพื่อประกอบการพิจารณา นอกจากนี้ยังต้องประสานงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันการฟอกเงิน(ปปง.) ขอข้อมูลเพิ่มเติม เช่น เส้นทางการเงินในบัญชี



+++ความคืบหน้าการตรวจสอบคดีทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ที่มีนางรจนา สินที ข้าราชการซี 8 เป็นผู้ต้องหา พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี กรรมการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า มีข้อสงสัยว่านางรจนาเป็นเพียงผู้ช่วยเลขาในที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติทุน แต่ทำไมมีอำนาจเบ็ดเสร็จในการเบิกจ่ายเงินคนเดียว ดังนั้น ในส่วนนี้นางรจนาจะมีความผิดทางแพ่งฐานละเมิดอีกด้วยนอกจากนี้ยังมีเอกสารที่น่าเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตมาตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลการเบิกจ่ายเงินทุน พบว่าบางปีมีการทุจริตเงินทั้งก้อนโดยที่นักเรียนไม่เคยได้รับทุนเลยตรวจสอบพบข้อบกพร่อง 3 ประเด็นที่ทำให้เกิดการทุจริต คือการไม่กำหนดตัวบุคคลที่จะรับทุน โดยพิจารณาอนุมัติทุนตามที่โรงเรียนร้องขอใน 4 กลุ่มโรงเรียน และไม่ระบุชื่อเจ้าของบัญชีและเลขที่บัญชีที่รับโอนเงินจากกองทุนเสมาฯหลังอนุมัติทุนการศึกษาไม่มีการติดตามผลว่านักเรียนได้รับทุนหรือไม่ กระทรวงศึกษาในฐานะผู้อนุมัติทุน หรือโรงเรียนผู้รับทุน มีส่วนรู้เห็นกับการทุจริตหรือไม่ เนื่องจากมีการทวงถามทุนการศึกษามายังกระทรวงฯ แต่กระทรวงฯปฏิเสธว่าไม่มีทุน ในประเด็นนี้จะต้องตรวจสอบว่าใครรับเรื่องและปฏิเสธการจ่ายทุนทั้งที่ทุนการศึกษาได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการแล้ว 



++++เร็วๆ นี้ ป.ป.ท.จะทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ขอให้จัดส่งระเบียบการอนุมัติทุนทั้งหมด มาประกอบการไต่สวนความผิดทางอาญา และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าในปี 2551 นางรจนาได้เปิดบัญชีเพื่อรับโอนเงินจากกองทุนเสมาฯ รวม 22 บัญชี แต่ได้โอนเข้าบัญชีบุคคลอื่นรวม 31 บัญชี ซึ่ง 22 บัญชีที่เปิดไว้เพื่อรับทุนในปี 2560 ระหว่างที่กระทรวงศึกษาตรวจสอบ พบว่าต้นเดือนกุมภาพันธ์ เงินถูกถอนออกไปทั้งหมด พร้อมแจ้งปิดบัญชีทั้งหมดแล้วเช่นกัน



+++นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่ากรมฯ มีหนังสือถึงสำนักงานเครื่องหมายการค้าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อแสดงข้อกังวลในการรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “หมอนทอง” เป็นเครื่องหมายการค้าในจีน เพราะถือเป็นคำที่เล็งเห็นถึงคุณลักษณะของสินค้าที่ยื่นขอโดยตรง และทราบโดยทั่วไปอย่างแพร่หลายทั้งในไทยและต่างประเทศว่า “หมอนทอง” เป็นชื่อพันธุ์ผลไม้ทุเรียนของไทยที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก 



+++จ่าสิบตำรวจเลอศักดิ์ นนท์ขุนทด ผู้บังคับหมู่ฝ่ายสืบสวนสอบสวน สน.พหลโยธิน นำเอกสารหลักฐานเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรม กับพลตำรวจตรีพุทธิชาต เอกฉันท์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ดูแลงานจเร กรณีถูกผู้บังคับบัญชาระดับสารวัตร 2 นาย เรียกร้องให้นำเงินค่าเบี้ยเลี้ยงตกเบิกจากการตั้งด่านความมั่นคงส่วนหนึ่ง มาจัดซื้อเครื่องปรับอากาศติดห้องทำงานฝ่ายสืบสวน  เชื่อมั่นว่าจะได้รับความเป็นธรรม ส่วนตนนั่นพร้อมรับกับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ด้านพลตำรวจตรีพุทธิชาต ได้รับเรื่องไว้พิจารณาว่าพร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยกำลังตัดสินใจว่าจะตั้งเป็นระดับกองบังคับการ หรือ กองบัญชาการตำรวจนครบาล แต่ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งย้ายฝ่ายใดออกนอกพื้นที่



+++นายอุทัย ธารีจิตร" ครูบำนาญโรงเรียนอัสสัมชัญ ได้เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง "มูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย" และ "โรงเรียนอัสสัมชัญ" เป็นจำเลยที่ 1-2 คดีทางแพ่ง ฐานผิดสภาพการจ้างเรื่องการจ่ายบำนาญและค่าชดเชยตามกฎหมายให้กับครูเกษียณอายุ พร้อมเรียกค่าชดเชย 9,318,614.57 บาท กรณีเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 58 จำเลยทั้งสองได้เลิกจ้างโจทก์โดยอ้างเหตุเกษียณอายุ ซึ่งโจทก์มีสิทธิรับบำนาญและต้องได้รับการขึ้นเงินบำนาญทุกปีการศึกษาใหม่ในอัตราร้อยละ 10 ของเงินบำนาญที่ได้รับ รวมทั้งมีสิทธิได้รับค่าชดเชยเทียบเท่าค่าจ้างสุดท้ายไม่น้อยกว่า 10 เดือน แต่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองกลับไม่จ่ายค่าชดเชยให้แก่โจทก์ โดยเมื่อเดือน พ.ค. 59 จำเลยทั้งสองเพิ่มเงินบำนาญให้โจทก์เพียง 420 บาท ต่อปีเท่านั้น และในเดือน พ.ค.60 ก็ไม่ได้เพิ่มเงินบำนาญให้อีก ซึ่งเป็นการขัดต่อระเบียบ, ข้อบังคับ และข้อตกลงของโจทก์กับจำเลยทั้งสอง จึงขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันในการจ่ายค่าชดเชยพร้อมดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับตั้งแต่วันเกษียณอายุ คือ 30 เม.ย. 58  โดยศาลรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ 821/2561 และกำหนดนัดให้คู่ความทั้งสองเข้าเจรจาไกล่เกลี่ยกัน ในวันที่ 21 เม.ย.นี้ เวลา 9.00 น. นอกจาก "นายอุทัย ยังมีคณะครูบำนาญโรงเรียนอัสสัมชัญอีก 5 คน ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นรายคดีเช่นเดียวกันด้วย รวมทั้งสิ้น 6 สำนวน



+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดที่ระดับ 1,802.58 จุด เพิ่มขึ้น 1.48 จุด  มูลค่าการซื้อขาย 60,746.99 ล้านบาท ดัชนีตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ว่าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วันพรุ่งนี้ (28 มี.ค.) จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิมร้อยละ 1.50 เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจไทยต่อเนื่องจากปีก่อน รวมถึงนักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นในการลงทุนพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) และมีความชัดเจนมากขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันปิดใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี



+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นกว่าร้อยละ  2.6 หลังจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับการปลอมแปลงเอกสารซื้อขายที่ดินซึ่งเกี่ยวข้องกับนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ดัชนีนิกเกอิปิดพุ่งขึ้น 551.22 จุด ที่ระดับ 21,317.32 จุด



++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดเพิ่มขึ้น 242.06 จุด ที่ 30,790.83 จุด



+++สหภาพยุโรป (อียู) ให้เวลาเฟซบุ๊กชี้แจงภายใน 2 สัปดาห์เรื่องข้อมูลผู้ใช้ 50 ล้านรายถูกบุคคลภายนอกนำไปใช้ประโยชน์ กรรมาธิการยุติธรรมอียูส่งหนังสือถึงผู้บริหารเฟซบุ๊กว่า อยากได้คำตอบภายในสองสัปดาห์ว่าเฟซบุ๊กจะมีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอย่างไร มีพลเมืองอียูได้รับผลกระทบหรือไม่ หากมี เฟซบุ๊กคิดจะแจ้งทางการและผู้ใช้อย่างไร สื่อสังคมออนไลน์ควรต้องอยู่ใต้ภายระเบียบเข้มงวดเหมือนกับสื่อกระแสหลักหรือไม่ และเฟซบุ๊กจะดำเนินการอย่างโปร่งใสกับผู้ใช้และทางการอย่างไร ขณะเดียวกันนายคริสโตเฟอร์ ไวลีย์ อดีตพนักงานเคมบริดจ์ อนาลีติกา ผู้เปิดโปงว่าบริษัทนำข้อมูลผู้ใช้เฟซบุ๊กไปช่วยเหลือโดนัลด์ ทรัมป์ให้ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐได้อย่างไร ชี้แจงต่อคณะกรรมการดิจิทัล วัฒนธรรม สื่อและกีฬาในรัฐสภาอังกฤษวันนี้ว่า มีหลักฐานชัดเจนปรากฏอยู่ในสาธารณะว่า แอกกริเกตไอคิว (เอไอคิว) บริษัทแคนาดาพัฒนาซอฟท์แวร์ชื่อริปอนขึ้นใช้ประโยชน์จากข้อมูลเฟซบุ๊กเพื่อให้คณะหาเสียงของพรรครีพับลิกันจัดการเรื่องฐานข้อมูลผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เจาะกลุ่มเฉพาะ หาเสียง ระดมทุน และทำการสำรวจก่อนการเลือกตั้งปี 2559 บริษัทชี้แจงกับรอยเตอร์เมื่อหลายวันก่อนว่า ไม่เคยติดต่อกับอนาลีติกา และไม่เคยทำผิดกฎหมาย



 



 

ข่าวทั้งหมด

X