ครม.เห็นชอบร่างที่ราชพัศดุ/หนุนปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แทนปลูกข้าวไร่ละ2พันบาท

หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. ที่ราชพัสดุ ซึ่งในฉบับเดิม ได้ใช้มาเป็นระยะเวลานานจึงมีการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น โดยกำหนดบทนิยามที่ราชพัสดุให้ชัดเจน กำหนดลักษณะพื้นที่ที่เป็นราชพัสดุ กำหนดให้มีคณะกรรมการที่ราชพัสดุ เพิ่มขึ้น 3 ตำแหน่ง คือ ด้านเศรษฐศาสตร์ ด้านการวางแผนแม่บทการใช้ที่ดิน ด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้การโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุ จะต้องมีการตราเป็นพระราชบัญญัติ แต่หากถูกปรับไปเป็นที่ดินสาธารณะ พลเมืองใช้ร่วมกันให้ออกเป็นพระราชกฤษฎีกา โดยเน้นย้ำการจัดหาประโยชน์ในที่ดินราชพัสดุ ให้ถือว่าไม่เป็นการร่วมลงทุนตามกฎหมายร่วมลงทุน และการจัดหาประโยชน์ในที่ดินราชพัสดุ ที่มีโครงการมูลค่าเกินกว่า 5,000 ล้านบาท ต้องได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมการที่ดินราชพัสดุก่อน ส่วนหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลที่ดินราชพัสดุจะต้องรายงานผลการดูแลต่อกรมธนารักษ์ทุก 2 ปี หากผู้ใดเข้าไปยึด ครอบครองก่อสร้างและทำลายก่อให้เกิดการเสื่อมสภาพ ในที่ดินหรือทรัพยากรในที่ราชพัสดุมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ แต่หาก กระทำการในเนื้อที่ที่เกินกว่า 50 ไร่ขึ้นไปต้องระวางโทษไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.การประเมินมูลค่าทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ โดยมีคณะกรรมการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน ซึ่งมีปลัดกระทรวงการคลัง และมีคณะกรรมการประเมินมูลค่าทรัพย์สินระดับจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานมีหน้าที่กำหนดมูลค่าประเมินของทรัพย์สิน โดยเป็นที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง ในเขตจังหวัดที่ผู้ว่าราชการจังหวัดรับผิดชอบ พร้อมจัดทำบัญชีกำหนด มูลค่าประเมินของทรัพย์สินและแผนที่ประกอบการประเมิน ซึ่งในบัญชีนี้จะมีผลใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2562 โดยมีอายุการใช้งานระยะเวลา 4 ปี

ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบปรับเปลี่ยนพื้นที่จังหวัดในโครงการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกข้าวโพด เลี้ยงสัตว์แทนการปลูกข้าว ในฤดูนาปี ปีการผลิต 2560-2561 จำนวน 31 จังหวัด โดยเปลี่ยนจาก จังหวัดอุดรธานีและลพบุรี เป็นจังหวัดหนองคาย และฉะเชิงเทรา ซึ่งรัฐจะอุดหนุนไร่ละ 2,000 บาท ไม่เกิน 15 ไร่ ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 1,400 ล้านบาท เป็นงบกลางปี 2561