นายกฯ ย้ำเข้มงวดมาตรการป้องกันควบคุมอุบัติเหตุสงกรานต์ปีนี้ให้ปลอดภัย

หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การควบคุมอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า ที่ผ่านมีมาตราการป้องกัน ควบคุมอุบัติเหตุอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่ช่วงเทศกาลสงกราต์เท่านั้น โดยได้สั่งการเจ้าหน้าจัดชุดตรวจสอบ ยานพาหนะให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และเข้มงวดในการตรวจสารเสพติดผู้ขับขี่รถทุกคัน หากตรวจพบผู้ใดมีสารเสพติดในร่างกาย ต้องขึ้นบัญชีไว้จนกว่าจะตรวจสอบผ่าน โดยทยอยสอบตรวจตั้งวันนี้เป็นต้นไป ส่วนผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ จะต้องตรวจสอบสภาพรถก่อนออกเดินทางและตรวจสอบสารเสพติดผู้ขับขี่รถทุกคันด้วยเช่นกัน

รวมถึงจะมีการบังคับใช้กฎหมายกรมการขนส่งทางบกอย่างเข้มงวด เร่งหามาตราการปรับแก้ปัญหารถทัวร์ 2 ชั้นที่จะต้องจำกัดความสูงควบคุมพื้นที่ขับขี่เพื่อลดอันตรายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และอยากให้เทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ปลอดภัยที่สุดและขอให้ประชานเล่นน้ำอย่างประหยัด

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงผลการประชุมคสช. ว่า ที่ประชุมได้หารือบทลงโทษการทุจริตที่ต้องเข้มงวดมากขึ้น เช่น กรณีมีข้อร้องเรียน ต้องตรวจสอบขั้นต้นให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน และต้องเสร็จสิ้นภายใน 30 วัน หากพบว่ามีความร้ายแรงต้องให้โอนย้ายมาที่สำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อตรวจสอบ  หากบทลงโทษไม่ถึงขั้นให้ออกต้องให้อยู่ตำแหน่งเดิม 3 ปี ห้ามปรับขั้นขึ้น ส่วนผู้ที่ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ก็จะถูกเข้มงวดทั้งหมด ไม่เช่นนั้นสังคมจะไม่ไว้วางใจรัฐบาล

ส่วนกรณีที่พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เสนอให้ใช้ ม.44 แก้ปัญหาทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ว่า ไม่จำเป็นต้องใช้ ม.44 เพราะมีกฎหมายที่ดำเนินการเอาผิด และมีหน่วยงานที่ดูแลอยู่แล้ว  ส่วนเรื่องนี้จะมีกระบวนการใหญ่อยู่เบื้องหลังหรือไม่กำลังตรวจสอบอยู่เช่นกัน ว่าเหตุใดจึงมีการทุจริตมาอย่างยาวนานถึง 10 ปี เพราะนางรจนา สินที ข้าราชการระดับ 8 ขอรับผิดชอบเพียงแค่คนเดียว จึงต้องขอเวลาตรวจสอบ ซึ่งรัฐบาลก็จะเร่งรัดการตรวจสอบให้เร็ว นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานนอกร่วมตรวจสอบด้วย ขณะเดียวกันไม่ตอบว่าเชื่อหรือไม่ว่านางรจนาทำเพียงคนเดียว เพราะตนเองเชื่อด้วยหลักฐาน นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึง ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ว่าเบื้องต้น มีการพบว่ามีตำรวจระดับยศพันเอกลงไปเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวแล้ว 14 ราย โดยบทลงโทษจะไม่มีการปรับย้าย ถึง 3 ปี ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรง