ไฟไหม้ห้างในไซบีเรียตาย64/อียิปต์เลือกตั้งปธน./มาเลเซียพิจารณากฎหมายข่าวปลอม

27 มีนาคม 2561, 06:09น.


ความคืบหน้าเหตุไฟไหม้ศูนย์การค้าวินเทอร์ เชอร์รี่ในเมืองเคเมโรโว เขตสหพันธ์ไซบีเรีย ทางตอนใต้ของรัสเซีย ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น พบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนอย่างน้อย 64 ราย บาดเจ็บ 45 คน โดยในกลุ่มผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บพบว่าเป็นเด็กมากถึง 40 ราย และยังสูญหายอีก 10 คน



ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ทั้งไม่มีสัญญาณเตือนภัย เด็กหลายคนพลัดหลงกับผู้ปกครอง และมีผู้ที่ถูกขังอยู่ในโรงภาพยนตร์ เพราะประตูถูกล็อกเพื่อไม่ให้คนที่ไม่มีตั๋วลักลอบเข้าโรงภาพยนตร์



นายวลาดิเมียร์ เชอร์นอฟ รองผู้ว่าการภูมิภาคเคเมโรโว กล่าวว่า พบผู้เสียชีวิต 13 ราย บริเวณทางเดินในโรงภาพยนตร์ นอกจากนี้ยังมีการเผยแพร่ภาพถ่ายหน้าจอโทรศัพท์ผ่านสื่อสังคมต่างๆ โดยเป็นภาพข้อความที่เด็กหญิงวัย 13 ปีส่งถึงครอบครัวเพื่อบอกลา



ส่วนการเมืองอียิปต์ ประชาชนจำนวนมากออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งจะใช้เวลาทั้งสิ้น 3 วัน และคาดว่า นายอับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซีซี อายุ 63 ปีจะชนะการเลือกเป็นสมัยที่ 2  แต่คาดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีผู้ใช้สิทธิ์น้อยกว่าในครั้งก่อน เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งที่มีผู้ลงสมัครเพียง 2 คนคือนายอัลซีซีกับอีกคนคือนายมุสซา มอสตาฟา มุสซา ซึ่งก็เป็นผู้ที่ประกาศว่าจะสนับสนุนให้นายอัลซีซี เป็นประธานาธิบดีอีกสมัย



ที่ฝรั่งเศส กรณีที่นักรบของกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ก่อเหตุรุนแรงและจับตัวประกันที่ซูเปอร์มาร์เก็ตในเขตเทศบาลเทรบส์ ทาง ตอนใต้ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 รายและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ตำรวจฝรั่งเศสควบคุมตัวนายสเตฟาน ปูซีเยร์ นักการเมืองพรรคฝรั่งเศสผู้ไม่ยอมจำนน หรือ เอฟไอ ฝ่ายซ้ายจัด ที่บ้านพักในเขตเทศบาลดีส-ซูร์-แมร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือ เนื่องจากทวีตข้อความ 2 ข้อความ ที่มีเนื้อหายินดีกับการที่มีนายตำรวจเสียชีวิต คือพันตำรวจโท อาร์โนด์ เบลตรอม ที่ยอมสละชีวิตด้วยการขอแลกตัวกับตัวประกันที่คนร้ายควบคุมตัวไว้ โดยในข้อความนายปูซีเยร์ ระบุว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่ตำรวจถูกยิงก็มักจะคิดถึงเพื่อนที่เป็นนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมที่เสียชีวิตในระหว่างการประท้วงเมื่อเดือนตุลาคม 2557 ทั้งระบุว่า การที่ผู้เสียชีวิตจากเหตุนี้คือพันตำรวจโทต้องถือว่าเยี่ยมมาก และยังหมายถึงการที่จำนวนคนที่จะออกเสียงให้นายมาครงลดไปอีกคน ซึ่งทำให้นายปูซีเยร์ถูกสอบปากคำฐานแสดงพฤติกรรมเข้าข่ายก่อการร้าย หากศาลพิจารณาว่ามีความผิดจริงอาจต้องโทษสูงสุดไม่เกิน 7 ปี และปรับเป็นเงิน 100,000 ยูโร



รัฐบาลมาเลเซียของนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค เสนอร่างกฎหมายต่อต้านข่าวปลอม2018 เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภา โดยมีสาระสำคัญคือผู้ที่เผยแพร่ข่าวปลอม อาจต้องรับโทษจำคุกเป็นเวลาสูงสุด 10 ปี หรือปรับเป็นเงินสูงสุด 500,000 ริงกิต หรือทั้งจำทั้งปรับ กฎหมายฉบับนี้ยังมีผลบังคับใช้ต่อผู้กระทำความผิดที่เป็นชาวต่างชาติที่อยู่ในต่างประเทศด้วย เพื่อหวังลดจำนวนข่าวเท็จและข้อมูลลวงที่เผยแพร่อยู่ในสังคม และให้ความคุ้มครองสิทธิและมอบเสรีภาพในการแสดงออกทางความคิดเห็นและเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารตามกรอบของรัฐธรรมนูญ เพื่อส่งเสริมให้มีความรับผิดชอบมากขึ้นในการเผยแพร่ข่าวหรือข้อมูลใด ๆ ก็ตาม อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์และนักการเมืองฝ่ายค้านเห็นว่า เป้าหมายที่แท้จริงของกฎหมายฉบับนี้ก็คือการควบคุมการเผยแพร่ข่าวทุจริตกองทุนวันเอ็มดีบีของนายกรัฐมนตรี



การเมืองเมียนมา นายมาน วิน เกียง ถั่น ประธานรัฐสภาเมียนมาประกาศว่า รัฐสภาจะเลือกประธานาธิบดีคนใหม่แทนนายถิ่น จอ ในวันที่ 28 มีนาคมนี้ โดยมีตัวเลือก 3 คนที่เป็นรองประธานาธิบดีอยู่ในปัจจุบันคือรองประธานาธิบดีมินต์ ส่วย รองประธานาธิบดีเฮนรี วัน เทียว และ รองประธานาธิบดีวิน มินต์ ทำให้มีการคาดการณ์ว่านายวิน มินต์ จะเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ เพราะเป็นผู้ที่ให้การสนับสนุนนางอองซาน ซูจี ผู้นำโดยพฤตินัยของเมียนมา



เกิดปรากฏการณ์หิมะสีส้มในยุโรปฝั่งตะวันออก ครอบคลุมบางพื้นที่ของรัสเซีย ยูเครน บัลแกเรีย โรมาเนีย และมอลโดวา โดยปรากฏการณ์ธรรมชาติหิมะสีส้มจะเกิดขึ้นทุกๆ 4-5 ปี เนื่องจากการพัดพาทรายจากทะเลทรายซาฮาราขึ้นสู่อากาศแล้วกลั่นตัวตกลงมาเป็นฝนและหิมะ



ที่ญี่ปุ่นมีการเผยแพร่ผลการสำรวจความคิดเห็นกรณีการซื้อขายที่ดินของรัฐที่เอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องของนายกรัฐมนตรี ชินโซะ อาเบะ พบว่า กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 48 เห็นว่านายกรัฐมนตรีอาเบะและคณะรัฐบาลควรลาออก ขณะที่คะแนนนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีลดลงมาอยู่ในระดับต่ำสุดคือ 32.6



ตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์และตราสารหุ้นสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นเมื่อมีมุมมองในด้านบวกว่าสหรัฐฯและจีนกำลังจะเริ่มเจรจาการค้า ซึ่งช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสองประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลก



ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 669.40 จุด หรือร้อยละ 2.84 ปิดที่ 24,202.60 จุด



เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 70.29 จุด หรือร้อยละ 2.72 ปิดที่ 2,658.55 จุด



แนสแดค เพิ่มขึ้น 227.88 จุด หรือร้อยละ 3.26 ปิดที่ 7,220.54 จุด



สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 33 เซนต์ ปิดที่ 65.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 33 เซนต์ ปิดที่ 70.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



...

ข่าวทั้งหมด

X