การลงพื้นที่ตรวจรถโดยสารสาธารณะที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ นายสมยศ แดงรุ่งเรือง เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญงาน กรมการขนส่งทางบก ในฐานะหัวหน้าชุดตรวจการ 12 เปิดเผยว่า วันนี้จะเน้นตรวจผู้นำรถแท็กซี่ ที่มีอายุเกิน 9 ปีมาขับรับผู้โดยสาร และรถแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร เนื่องจาก รถแท็กซี่ที่ผิดระเบียบ เมื่อพบเจ้าหน้าที่จะหลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทน เพื่อหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่ จึงตรวจจับได้ยาก ขณะเดียวกัน ในปัจจุบันพบว่ามีผู้ร้องเรียนเรื่องแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสารลดลงมาก
นายสมยศ ฝากถึงผู้ขับรถแท็กซี่อายุเกินกฎหมายกำหนด ให้รีบนำแผ่นป้ายทะเบียนมาส่งคืนที่กรมการขนส่งทางบก และนำรถไปจดทะเบียนเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งกรมการขนส่งทางบก ให้เวลาในการเตรียมตัว 1 เดือน ระหว่างนี้จะต้องถอดมิเตอร์และโป๊ะออก รวมถึงไม่รับผู้โดยสาร หากถอดมิเตอร์และโป๊ะออกหมดแล้ว แสดงว่าเจ้าของรถมีเจตนาที่ดี
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังตรวจในเรื่องใบขับขี่รถโดยสารสาธารณะ, ป้ายระบุข้อมูลของผู้ขับรถ ที่จะต้องมีติดที่หน้ารถและหลังเบาะข้างคนขับ, ป้ายทะเบียนรถที่จะต้องติดที่ด้านในประตู, การตรวจมิเตอร์, การเสียภาษีประจำปี, อุปกรณ์ส่วนควบ ทั้งภายในและภายนอกรถ, การติดฟิล์มกระจก ที่จะต้องห้ามติดฟิล์มดำเด็ดขาด, การห้ามนำรถแท็กซี่ป้ายแดงมาขับรับผู้โดยสาร, การแต่งกาย
เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ยังตรวจรถสามล้ออีกด้วย แต่กรณีที่รถสามล้อปฏิเสธผู้โดยสาร ไม่สามารถเอาผิดได้ เนื่องจากตามระเบียบการเหมารถเล็ก จะเป็นการตกลงราคาร่วมกัน ไม่ได้ใช้วิธีกดมิเตอร์ ผู้ขับขี่จึงสามารถปฏิเสธผู้โดยสารได้ จากการลงตรวจเบื้องต้น พบรถแท็กซี่กระทำความผิด 3 คัน ที่ขับรถหมดอายุ จึงออกใบสั่งผู้ตรวจการ ให้ไปเสียค่าปรับที่กรมการขนส่งทางบก และถอดป้ายทะเบียนยึดทันที
นายสมยศ ยอมรับว่า การตรวจรถแท็กซี่ในช่วงเย็น ทำได้ยาก เนื่องจากการจราจรติดขัดหนาแน่น ทำให้กีดขวางเส้นทางการจราจร จึงต้องรอให้การจราจรเคลื่อนตัวได้มากกว่านี้ จึงจะสามารถตรวจได้สะดวกขึ้น
สำหรับบรรยากาศบริเวณถนนราชดำริ ช่วงเย็นวันนี้มีประชาชน นักท่องเที่ยวจำนวนมากใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ ขณะที่การจราจรค่อนข้างติดขัดหนาแน่น
ผู้สื่อข่าว: ปภาดา พูลสุข