การตรวจสอบคดีทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) คณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) สำนักงานปลัดศธ. ที่มีนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดศธ.เป็นประธาน ประชุมเพื่อพิจารณาโทษทางวินัยนางรจนา สินที ข้าราชการซี 8 กระทรวงศึกษาธิการทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต สำนักนิติการของสำนักงานปลัด ศธ.เสนอให้ลงโทษวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งโทษมี 2 กรณี คือ ไล่ออก หรือปลดออกจากราชการ มีรายงานระบุว่า ที่ประชุมมีมติไล่ออกจากราชการ
การตรวจสอบเส้นทางธุรกรรมการเงินคดีนางรจนา นายวิทยา เนติธรรม เลขานุการกรม สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) คาดว่าอีก 1 เดือนจะได้ข้อสรุป ซึ่งการตรวจสอบเงินที่โอนเข้าไปยังบัญชีชื่อบุคคลอื่น 22 บัญชี พบว่าเงินถูกถอนออกหมดตั้งแต่ต้นเดือนก.พ. ปปง.จะต้องสืบทรัพย์ต่อว่ามีการนำเงินไปใช้จ่ายหรือแปลงไปเป็นสินทรัพย์ประเภทอื่นหรือไม่ เพราะเชื่อว่านางรจนาไม่สามารถที่จะดำเนินการเรื่องทั้งหมดได้เพียงคนเดียว และดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในคดีฟอกเงิน ซึ่งมีโทษจำคุกทางอาญา 10 ปี ประเด็นสำคัญที่ต้องเร่งขยายผลคือความเชื่อมโยงถึงข้าราชการในระดับสูงกว่านางรจนา
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ยุติธรรม ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงศึกษาธิการ ยืนยันว่า จะต้องมีการเร่งรัด ปรับปรุงกระบวนการขั้นตอน ให้มีความรัดกุมมากขึ้น สั่งการให้ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) รายงานเรื่องนี้ ต่อที่ประชุมศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ด้วย หากพบมีการทุจริตเป็นที่ประจักษ์ชัดเจน สามารถขอหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจมาตรา 44 ในการจัดการได้ เพราะรัฐบาลให้ความสำคัญ และต้องการแก้ปัญหาการทุจริตอย่างจริงจัง เพราะถือเป็นวาระแห่งชาติและเป็นนโยบายเร่งด่วน
แฟ้มภาพ