คดีนายเปรมชัย กรรณสูต และพวกที่ล่าสัตว์ป่าคุ้มครองในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ซึ่งสำนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรีได้มีหนังสือแจ้งให้พนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ สอบสวนรายละเอียดเพิ่มเติมในบางกรณี เกี่ยวกับความเสียหายต่อระบบนิเวศ และอนุสัญญาไซเตส ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้ส่งมอบสำนวนเพิ่มเติมให้อัยการจังหวัดทองผาภูมิแล้ว
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หน.ชุดฉก.พญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่าในการคำนวณความเสียหายที่เกิดจากการล่าสัตว์ป่า ได้แก่เสือดำ 1 ตัว อายุราว 5 ปี เป็นเสือดำชนิดย่อย เสือดำอินโดจีน เป็นสัตว์ป่าที่หายากและใกล้จะสูญพันธุ์มีสถานภาพทางกฎหมายเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมลำดับที่ 182 ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และบัญชีหมายเลข 1 ของอนุสัญญาไซเตสคิดเป็นค่าเสียหายตัวละ 3,012,000 บาท ส่วนไก่ฟ้าหลังขาวธรรมดา 1 ตัว คิดค่าเสียหายเป็นเงินตัวละ 22,612 บาท รวมค่าเสียหายทั้งเสือดำและไก่ ฟ้า รวมเป็นเงิน 3,034,612 บาท ซึ่งเป็นค่าเสียหายด้านสัตว์ป่าเท่านั้น ยังไม่ได้รวมค่าเสียหายของระบบนิเวศสัตว์ป่า และระบบนิเวศของพืช ซึ่งเป็นการฟ้องแพ่งความเสียหายด้านสัตว์ป่าเป็นครั้งแรกของกรมอุทยานฯ และในวันนี้ นายเปรมชัย พร้อมพวกจะต้องไปรายงานตัวครั้งแรกที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ ซึ่งจะเป็นวันครบกำหนดวันนัดฝากขังครั้งที่ 4
มูลนิธิสืบนาคะเสถียร แจ้งเปลี่ยนแปลงรูปแบบกิจกรรมเสวนา “ก่อนจะขึ้นศาลคดีเสือดำ” ในวันนี้เวลา เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมอิศรา อมันตกุล สมาคมนักข่าวฯ เป็นเปลี่ยนกิจกรรมการพูดคุยเป็นไลฟ์เฟซบุ๊กสรุป-วิเคราะห์ “ก่อนจะขึ้นศาลคดีเสือดำ” ตั้งแต่เวลา 13.30 น. เป็นต้นไป
ส่วนที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร กลุ่มทีชัลลา (T’Challa) จัดกิจกรรม “รวมพลคนพันธุ์เสือดำ” ครั้งที่ 5 และจัดเสวนาเพื่อทวงความยุติธรรมให้กับสัตว์ป่า แสดงความกังวลว่าจะมีการยกฟ้องผู้ต้องหา แกนนำกลุ่มระบุว่าหากมีการยกฟ้องก็จะนัดรวมกลุ่มประกาศวันป่าประท้วงต่อไป
ส่วนการตรวจสอบทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ของกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแค่ปี 2551-ปัจจุบัน มีความเสียหายเกิดขึ้นมากกว่า 88 ล้านบาท สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจดอนเมือง เข้าตรวจค้นบ้าน นางรจนา สินที นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ สำนักส่งเสริมกิจการการศึกษา ระดับ 8 กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเก็บหลักฐาน แต่จากสภาพบ้านพักที่ค่อนข้างทรุดโทรมทำให้มีข้อสงสัยว่าจะมีการโอนเงินที่ทุจริตไปเข้าบัญชีของบุคคลอื่น และการอนุมัติเงินกองทุนฯ ทำในรูปคณะกรรมการฯ มีผู้ร่วมพิจารณาเป็นจำนวนมาก เหตุใดจึงระบุว่ามีข้าราชการทุจริตเพียงรายเดียว จึงให้ตรวจสอบผู้ที่มีชื่อในบัญชีรับเงินจากนางรจนา
นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัด ศธ. กล่าวว่า วันนี้ในการประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (อ.ก.พ.สป.) จะมีการพิจารณาลงโทษนางรจนา โดยโทษทางวินัยครั้งนี้ เป็นโทษระดับร้ายแรง ซึ่งเจ้าตัวได้รับสารภาพมาก่อนหน้านี้แล้ว จึงเป็นที่แน่นอนว่าจะได้รับโทษขั้นสูงสุด คือ ไล่ออก สถานเดียว และกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ซึ่งเป็นผู้เสียหายจะต้องพิจารณาเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการเบิกจ่ายเงินด้วย เพื่อติดตามเงินกลับมามอบให้แก่นักเรียนในโครงการที่ยังไม่ได้รับเงิน ซึ่งตามหลักเกณฑ์แล้ว ผู้กระทำผิดต้องรับผิดชอบ 100% แต่หากยึดทรัพย์แล้วไม่สามารถนำมาชดใช้ได้ครบ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องรับผิดชอบตามสัดส่วนที่เหลือ คือ เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินรับผิดชอบ 60% ผู้บังคับบัญชาชั้นต้น ชั้นกลาง และผู้อนุมัติผ่านงานรับผิดชอบ 40%
พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผอ.กองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 ป.ป.ท. ในวันนี้จะนำส่งหลักฐานอีเล็กทรอนิกส์ให้ผู้เชี่ยวชาญที่ บก.ปอท. ตรวจสอบข้อมูล
ส่วนกรณีทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ป่วยเอชไอวี (เอดส์) ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น ที่มีการขยายผลการตรวจสอบและพบการทุจริตเป็นวงกว้าง ติดตามว่าในสัปดาห์นี้ คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง จะสรุปชี้มูลการสอบสวนว่ามีข้าราชการระดับสูงในกระทรวงเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือไม่ และในวันนี้จะมีการสรุปตัวเลขศูนย์คุ้มครองฯ ที่มีการทุจริตเพิ่มเติม
ในวันนี้ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ร่วมกับเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมเขตงานตะนาวศรี และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) จัด “เวทีสุนทรียเสวนาเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่ดินและป่าไม้ ของชุมชนกะเหรี่ยงในพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน” ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย ผู้แทนศูนย์พิษวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วย การประสาน สนับสนุนข้อมูลและการดำเนินงานด้านพิษวิทยาของยาเสพติด ระหว่างหน่วยงานหลักด้านนโยบายและยุทธศาสตร์ยาเสพติดกับหน่วยงานทางวิชาการและการปฏิบัติการที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเกี่ยวกับพิษวิทยา เพื่อให้ประชาชนและสังคมได้รับประโยชน์ด้านองค์ความรู้ ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ตลอดจนวิธีการปฏิบัติตนเพื่อการป้องกันตนเองและสังคมให้ปลอดภัยจากโทษและพิษภัยของยาเสพติด สารเสพติด สารเคมี วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ก๊าซ และยารักษาโรคที่มีการนำมาใช้ในทางที่ผิด ที่สำนักงาน ป.ป.ส.
และปิดท้ายการดำเนินคดีคนขับรถทัวร์นำเที่ยวจากจังหวัดกาฬสินธุ์ เดินทางกลับจากท่องเที่ยวที่จันทบุรี เกิดอุบัติเหตุที่ถนนสาย 304 กบินทร์บุรี-นครราชสีมา ทางลงเขาวังน้ำเขียว ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา มีผู้เสียชีวิต 18 ราย บาดเจ็บ 32 คน เมื่อช่วงค่ำวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา โดยคนขับรถคือนายกฤษณะ จุฑาชื่น อายุ 44 ปี ผลตรวจปัสสาวะพบสารเสพติด รับสารภาพว่าเสพยาบ้าก่อนขับรถ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบช.ภาค 3 เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหา คือ ขับรถประมาททำให้ผู้อื่นบาดเจ็บและเสียชีวิต ก่อเหตุแล้วหนี และมีสารเสพติดในร่างกาย ส่วนอีก 1 ข้อหาคือขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด อยู่ระหว่างรอผลตรวจสอบจากสำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา ส่วนบก.ภ.จว.นครราชสีมาส่งตัวไปฝากขังไว้ที่ศาลจังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม ส่วนการแจ้งข้อหาผู้ประกอบการรถทัวร์ บริษัทกันเองทัวร์ จ.กาฬสินธุ์นั้น จะเร่งสรุปสำนวนคดีให้เสร็จภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อที่จะแจ้งข้อหาผู้ประกอบการเพิ่มเติม โดยเฉพาะข้อหาไม่ตรวจสภาพรถตามกำหนด และปล่อยให้พนักงานขับรถเสพสิ่งเสพติด ซึ่งเป็นต้นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุใหญ่ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีคำให้การของผู้รอดชีวิตที่เปิดเผยว่าเห็นคนขับทิ้งพวงมาลัยรถแล้ววิ่งหนีออกทางประตูฉุกเฉิน ซึ่งอาจมีการตั้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป
.........