+++การตั้งเป้าหมายเร่งรัดการเบิกจ่ายใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2558 นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานงบประมาณ เปิดเผยว่า สำนักงบประมาณ สั่งให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจทุกแห่งเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2558 โดยตั้งเป้าหมายเบิกจ่ายภาพรวม 2.47 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 96 ของวงเงินงบประมาณ 2.57 ล้านล้านบาท และเบิกจ่ายงบลงทุนให้ได้ 3 แสน 93,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ87 ของวงเงิน 4 แสน 50,000 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าการดำเนินมาตรการดังกล่าวจะช่วยให้เศรษฐกิจปี 2557 ขยายตัวได้ร้อยละ 1.5-2 และเศรษฐกิจปี 2558 ขยายตัวได้ ร้อยะ3.5-4.5 ต่อปี ซึ่งแต่ละหน่วยงานต้องส่งแผนให้สำนักงบประมาณภายในวันที่ 9 ก.ย. โดยงบประมาณรายจ่ายประจำจะต้องเร่งดำเนินงานและเบิกจ่ายภายในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ2558 ส่วนงบประมาณรายจ่ายเงินลงทุน กรณีจัดหาครุภัณฑ์ ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ เตรียมความพร้อมในการจัดซื้อจัดจ้างไว้ล่วงหน้า ทั้งการหาราคา สถานที่เก็บ กรณีก่อสร้างให้เตรียมความพร้อมข้อกำหนดและขอบเขตงาน (ทีโออาร์) ประมาณราคา สถานที่ก่อสร้าง และมีการดำเนินการขั้นตอนทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องไว้พร้อมครบถ้วนแล้ว และเมื่อส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ได้รับจัดสรรเงินจากสำนักงบประมาณแล้ว ต้องเร่งโอนเงินงบประมาณไปยังสำนักส่วนภูมิภาคนั้น ๆ ไม่เกิน 7 วัน แต่ต้องรายงานผลการเบิกจ่ายให้สำนักงบประมาณเป็นรายเดือนและไตรมาส เพื่อรายงานให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)รับทราบต่อไป
+++เมื่อถึงไตรมาส 2 ของปีงบประมาณ 2558 ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจยังไม่สามารถเบิกจ่ายได้ตามแผน ให้พิจารณาปรับเปลี่ยนโครงการที่สอดคล้องกับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศและนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล หากยังยืนดำเนินการตามแผนเดิมจะต้องชี้แจงเหตุผลและแนวทางแก้ปัญหาเพื่อให้มีความพร้อมในการเบิกจ่ายในสำนักงบประมาณพิจารณาก่อน
+++นายสุชาติ จันทรานาคราช รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ด้านแรงงาน เปิดเผยว่า ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ มีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตั้งแต่ปีจนถึงปัจจุบัน มีโรงงานขนาดกลาง และขนาดเล็ก ปิดตัวแล้วกว่า 10 แห่ง และยังมีแนวโน้มปิดกิจการเพิ่มอีก เนื่องจากปัญหา การขาดแคลนแรงงาน โดยล่าสุดอุตสาหกรรมต่าง ๆ ขาดแคลนแรงงานถึง 2 แสน-3 แสนคน โดยเฉพาะอุตสาหกรรม ที่ใช้แรงงานเป็นจำนวนมาก เช่น อุตสาหกรรมอาหาร, สิ่งทอ แนวทางการแก้ปัญหาทางคณะกรรมการร่วม 3 สถาบัน ประกอบด้วย ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย (กกร.) ได้ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อขอขยายสิทธิประโยชน์ด้านแรงงานแก่ผู้ประกอบการ 3 กลุ่ม คือ ผู้ประกอบการรายใหม่ ขอให้เอกชนมีส่วนพิจารณาการใช้แรงงานต่างด้าว ร่วมกับการตัดสินใจของบีโอไอ, ผู้ประกอบการที่กำลังจะสิ้นสุดสิทธิประโยชน์การใช้แรงงานต่างด้าวในสิ้นปี 2557 ขอขยายใช้แรงงานต่างด้าวไปอีก 2 ปี และผู้ประกอบการที่ได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีนิติบุคคลครบแล้ว ขอให้สามารถใช้แรงงานต่างด้าวได้ จากเดิมที่ไม่อนุญาตแล้ว ซึ่งต้องรอดูว่า บอร์ดบีโอไอ จะพิจารณาทันการประชุมวันที่ 9 ก.ย.นี้หรือไม่
+++การจัดระเบียบรถจักรยานยนต์สาธารณะในกรุงเทพมหานคร(กทม.) วันนี้ กรมการขนส่งทางบก เปิดรับลงทะเบียนทำบัตรประจำตัวและหมายเลขเสื้อวินใหม่ ตั้งแต่เวลา 10.00น. ที่กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า วันแรกของการเปิดลงทะเบียน ผู้ขับรถจักรยานยนต์สาธารณะต้องนำหลักฐานประกอบการลงทะเบียน ได้แก่ สำเนาใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลหรือสาธารณะ สำเนาทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่จดทะเบียนเป็นรถสาธารณะแล้ว รูปถ่ายสี หน้าตรง ไม่สวมหมวกหรือสิ่งปิดบังใบหน้า 2 นิ้ว จำนวน 3 รูป มายื่นกับเจ้าหน้าที่ ส่วนวันอื่นให้ผู้ขับรถจักรยานยนต์สาธารณะไปดำเนินการลงทะเบียนได้ในเขตที่รับผิดชอบโดยตรง เพื่อเป็นการสำรวจจำนวนที่แน่นอนในการออกหมายเลขลำดับประจำวินและเพื่อจัดทำเสื้อวินแบบใหม่ และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2558 เป็นต้นไป ผู้ขับรถจักรยานยนต์สาธารณะทุกคนจะต้องสวมเสื้อวินแบบใหม่ที่แสดงบัตรประจำตัวและหมายเลขประจำตัวที่ถูกต้องตามระเบียบที่จัดใหม่เท่านั้น เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของ คสช. คือ ตัวรถ เสื้อ บัตร คนขับ ต้องตรงกัน ไม่สามารถให้ผู้อื่นขับรถจักรยานยนต์สาธารณะแทนกันได้
+++คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสช.) เชิญตัวแทน บริษัทบางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ผู้บริหาร ช่อง 3 บริษัทบีอีซี - มัลติ มีเดีย จำกัด ผู้ชนะ ประมูลทีวีดิจิทัล 3 ช่อง ในเครือช่อง 3 ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลทุกช่อง รวมทั้งตัวแทนจากบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) คู่สัญญาสัมปทานช่อง 3 มาร่วมหารือ เพื่อร่วมหารือแนวทางแก้ปัญหาการออกอากาศช่อง 3 อนาล็อก พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช. และประธาน กสท. กล่าวว่า จากการหารือร่วมกับตัวแทนช่อง 3 จะนำเสนอปัญหาการออกอากาศดังกล่าว เสนอแผนแก้ไข และแนวทางปฏิบัติ ตามอำนาจกสทช. กลับมาให้พิจารณาอีกครั้ง และจะนำพิจารณาในที่ประชุมในวันจันทร์ที่ 8 ก.ย.
+++ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค (คร.) ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำแนวทางชันสูตรและวินิจฉัยโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา เปิดเผยความคืบหน้าอาการของหญิงชาวกินี อายุ 24 ปี ที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคอีโบลา หลังประชุมร่วมกับ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดี คร. และคณะ ว่า ผลการตรวจเลือดครั้งที่ 1 ให้ผลเป็นลบ คือ ไม่พบเชื้ออีโบลา มีอาการ ดีขึ้น ไม่มีไข้มา 2 วัน ส่วนวันนี้จะเจาะเลือดตรวจยืนยันซ้ำรอบ 2 ซึ่งนับเป็นวันที่ 5 ของ การป่วย คาดว่าจะได้ผลตรวจยืนยันในวันที่ 6 ก.ย. หากผลการตรวจยืนยันรอบ 2 ไม่พบเชื้อ ก็สามารถปล่อยตัวกลับบ้านได้ โดยไม่ต้องติดตามเฝ้าระวังผู้ที่มีประวัติสัมผัสหญิงรายดังกล่าวอีก 16 คน แต่หากผลเป็นบวกจะให้การรักษาผู้ป่วย และติดตามอาการผู้สัมผัสทั้ง 16 คน จนกว่าจะพ้นระยะการฟักตัวของโรค คือ 21 วัน ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ กล่าวและว่า ผู้ป่วยมีอาการเริ่มต้นคล้ายอีโบลาและไข้หวัดใหญ่ แต่ตรวจไม่พบเชื้อ จึงยังไม่ชัดเจนว่าป่วยด้วยโรคอะไร หลังจากนี้หากพบผู้เข้าเกณฑ์ต้องสอบสวนโรคอีก จะต้องตรวจวิเคราะห์เชื้อทั้งหมดในคราวเดียว เพื่อดูว่าป่วยเป็นโรคใด ส่วนผู้ป่วยรายนี้เป็นเคสแรกนับแต่เริ่มระบบ ด้านนพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า จากการตรวจหาเชื้ออื่น เพื่อเปรียบเทียบเชื้อของโรคในเขตร้อน 8 ชนิด ยืนยันได้แล้วว่า หญิงรายดังกล่าวป่วย ด้วยเชื้อมาลาเรีย ทั้งนี้ ตามมาตรฐานการตรวจที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ หากติดเชื้ออีโบลาจะเริ่มตรวจพบเชื้อเมื่อมีไข้ในวันที่ 3 และพบเชื้อได้แน่นอนเมื่อมีไข้วันที่ 5 จึงต้องตรวจซ้ำอีกครั้ง
+++ปัญหานักเรียนนักเลง พ.ต.อ.จารุต ศรุตยาพร ผกก.สน.ปทุมวัน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน ทั้งในและนอกเครื่องแบบ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหารสังกัด ม.พัน 1 รอ. 20 นาย ร่วมตรวจสอบ หลังรับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีนักศึกษาอาชีวะจับกลุ่มมั่วสุมกันบริเวณป้ายรถประจำทางหน้าห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง ไปตรวจสอบพบนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกวิทยาเขตอุเทนถวาย 26 คน กำลังจับกลุ่มรวมตัวกันที่บริเวณป้ายรถประจำทางหน้าห้างสรรพสินค้าดังกล่าว จึงแสดงตัวขอตรวจค้น พบว่านักศึกษากลุ่มดังกล่าวพกอาวุธมีด 26 เล่ม จึงควบคุมตัวทั้งหมดมาสอบสวนที่ สน.ปทุมวัน อ้างว่าเพื่อป้องกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะถูกนักเรียนสถาบันคู่อริมาทำร้าย ซึ่งไม่ใช่เหตุจำเป็นและหน้าที่ของนักเรียนเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้วางกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว เจ้าหน้าที่ทำประวัติ และให้พนักงานสอบสวนเปรียบเทียบปรับเจ้าของมีด 500 บาทในข้อหาพกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรก่อนประสานฝ่ายปกครองของสถาบัน และผู้ปกครองของนักศึกษาทั้งหมดมารับทราบก่อนรับตัวกลับไป
+++การตั้งเป้าหมายเร่งรัดการเบิกจ่ายใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2558 นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานงบประมาณ เปิดเผยว่า สำนักงบประมาณ สั่งให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจทุกแห่งเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2558 โดยตั้งเป้าหมายเบิกจ่ายภาพรวม 2.47 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 96 ของวงเงินงบประมาณ 2.57 ล้านล้านบาท และเบิกจ่ายงบลงทุนให้ได้ 3 แสน 93,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ87 ของวงเงิน 4 แสน 50,000 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าการดำเนินมาตรการดังกล่าวจะช่วยให้เศรษฐกิจปี 2557 ขยายตัวได้ร้อยละ 1.5-2 และเศรษฐกิจปี 2558 ขยายตัวได้ ร้อยะ3.5-4.5 ต่อปี ซึ่งแต่ละหน่วยงานต้องส่งแผนให้สำนักงบประมาณภายในวันที่ 9 ก.ย. โดยงบประมาณรายจ่ายประจำจะต้องเร่งดำเนินงานและเบิกจ่ายภายในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ2558 ส่วนงบประมาณรายจ่ายเงินลงทุน กรณีจัดหาครุภัณฑ์ ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ เตรียมความพร้อมในการจัดซื้อจัดจ้างไว้ล่วงหน้า ทั้งการหาราคา สถานที่เก็บ กรณีก่อสร้างให้เตรียมความพร้อมข้อกำหนดและขอบเขตงาน (ทีโออาร์) ประมาณราคา สถานที่ก่อสร้าง และมีการดำเนินการขั้นตอนทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องไว้พร้อมครบถ้วนแล้ว และเมื่อส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ได้รับจัดสรรเงินจากสำนักงบประมาณแล้ว ต้องเร่งโอนเงินงบประมาณไปยังสำนักส่วนภูมิภาคนั้น ๆ ไม่เกิน 7 วัน แต่ต้องรายงานผลการเบิกจ่ายให้สำนักงบประมาณเป็นรายเดือนและไตรมาส เพื่อรายงานให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)รับทราบต่อไป
+++เมื่อถึงไตรมาส 2 ของปีงบประมาณ 2558 ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจยังไม่สามารถเบิกจ่ายได้ตามแผน ให้พิจารณาปรับเปลี่ยนโครงการที่สอดคล้องกับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศและนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล หากยังยืนดำเนินการตามแผนเดิมจะต้องชี้แจงเหตุผลและแนวทางแก้ปัญหาเพื่อให้มีความพร้อมในการเบิกจ่ายในสำนักงบประมาณพิจารณาก่อน
+++นายสุชาติ จันทรานาคราช รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ด้านแรงงาน เปิดเผยว่า ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ มีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตั้งแต่ปีจนถึงปัจจุบัน มีโรงงานขนาดกลาง และขนาดเล็ก ปิดตัวแล้วกว่า 10 แห่ง และยังมีแนวโน้มปิดกิจการเพิ่มอีก เนื่องจากปัญหา การขาดแคลนแรงงาน โดยล่าสุดอุตสาหกรรมต่าง ๆ ขาดแคลนแรงงานถึง 2 แสน-3 แสนคน โดยเฉพาะอุตสาหกรรม ที่ใช้แรงงานเป็นจำนวนมาก เช่น อุตสาหกรรมอาหาร, สิ่งทอ แนวทางการแก้ปัญหาทางคณะกรรมการร่วม 3 สถาบัน ประกอบด้วย ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย (กกร.) ได้ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อขอขยายสิทธิประโยชน์ด้านแรงงานแก่ผู้ประกอบการ 3 กลุ่ม คือ ผู้ประกอบการรายใหม่ ขอให้เอกชนมีส่วนพิจารณาการใช้แรงงานต่างด้าว ร่วมกับการตัดสินใจของบีโอไอ, ผู้ประกอบการที่กำลังจะสิ้นสุดสิทธิประโยชน์การใช้แรงงานต่างด้าวในสิ้นปี 2557 ขอขยายใช้แรงงานต่างด้าวไปอีก 2 ปี และผู้ประกอบการที่ได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีนิติบุคคลครบแล้ว ขอให้สามารถใช้แรงงานต่างด้าวได้ จากเดิมที่ไม่อนุญาตแล้ว ซึ่งต้องรอดูว่า บอร์ดบีโอไอ จะพิจารณาทันการประชุมวันที่ 9 ก.ย.นี้หรือไม่
+++การจัดระเบียบรถจักรยานยนต์สาธารณะในกรุงเทพมหานคร(กทม.) วันนี้ กรมการขนส่งทางบก เปิดรับลงทะเบียนทำบัตรประจำตัวและหมายเลขเสื้อวินใหม่ ตั้งแต่เวลา 10.00น. ที่กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า วันแรกของการเปิดลงทะเบียน ผู้ขับรถจักรยานยนต์สาธารณะต้องนำหลักฐานประกอบการลงทะเบียน ได้แก่ สำเนาใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลหรือสาธารณะ สำเนาทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่จดทะเบียนเป็นรถสาธารณะแล้ว รูปถ่ายสี หน้าตรง ไม่สวมหมวกหรือสิ่งปิดบังใบหน้า 2 นิ้ว จำนวน 3 รูป มายื่นกับเจ้าหน้าที่ ส่วนวันอื่นให้ผู้ขับรถจักรยานยนต์สาธารณะไปดำเนินการลงทะเบียนได้ในเขตที่รับผิดชอบโดยตรง เพื่อเป็นการสำรวจจำนวนที่แน่นอนในการออกหมายเลขลำดับประจำวินและเพื่อจัดทำเสื้อวินแบบใหม่ และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2558 เป็นต้นไป ผู้ขับรถจักรยานยนต์สาธารณะทุกคนจะต้องสวมเสื้อวินแบบใหม่ที่แสดงบัตรประจำตัวและหมายเลขประจำตัวที่ถูกต้องตามระเบียบที่จัดใหม่เท่านั้น เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของ คสช. คือ ตัวรถ เสื้อ บัตร คนขับ ต้องตรงกัน ไม่สามารถให้ผู้อื่นขับรถจักรยานยนต์สาธารณะแทนกันได้
+++คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสช.) เชิญตัวแทน บริษัทบางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ผู้บริหาร ช่อง 3 บริษัทบีอีซี - มัลติ มีเดีย จำกัด ผู้ชนะ ประมูลทีวีดิจิทัล 3 ช่อง ในเครือช่อง 3 ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลทุกช่อง รวมทั้งตัวแทนจากบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) คู่สัญญาสัมปทานช่อง 3 มาร่วมหารือ เพื่อร่วมหารือแนวทางแก้ปัญหาการออกอากาศช่อง 3 อนาล็อก พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช. และประธาน กสท. กล่าวว่า จากการหารือร่วมกับตัวแทนช่อง 3 จะนำเสนอปัญหาการออกอากาศดังกล่าว เสนอแผนแก้ไข และแนวทางปฏิบัติ ตามอำนาจกสทช. กลับมาให้พิจารณาอีกครั้ง และจะนำพิจารณาในที่ประชุมในวันจันทร์ที่ 8 ก.ย.
+++ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค (คร.) ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำแนวทางชันสูตรและวินิจฉัยโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา เปิดเผยความคืบหน้าอาการของหญิงชาวกินี อายุ 24 ปี ที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคอีโบลา หลังประชุมร่วมกับ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดี คร. และคณะ ว่า ผลการตรวจเลือดครั้งที่ 1 ให้ผลเป็นลบ คือ ไม่พบเชื้ออีโบลา มีอาการ ดีขึ้น ไม่มีไข้มา 2 วัน ส่วนวันนี้จะเจาะเลือดตรวจยืนยันซ้ำรอบ 2 ซึ่งนับเป็นวันที่ 5 ของ การป่วย คาดว่าจะได้ผลตรวจยืนยันในวันที่ 6 ก.ย. หากผลการตรวจยืนยันรอบ 2 ไม่พบเชื้อ ก็สามารถปล่อยตัวกลับบ้านได้ โดยไม่ต้องติดตามเฝ้าระวังผู้ที่มีประวัติสัมผัสหญิงรายดังกล่าวอีก 16 คน แต่หากผลเป็นบวกจะให้การรักษาผู้ป่วย และติดตามอาการผู้สัมผัสทั้ง 16 คน จนกว่าจะพ้นระยะการฟักตัวของโรค คือ 21 วัน ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ กล่าวและว่า ผู้ป่วยมีอาการเริ่มต้นคล้ายอีโบลาและไข้หวัดใหญ่ แต่ตรวจไม่พบเชื้อ จึงยังไม่ชัดเจนว่าป่วยด้วยโรคอะไร หลังจากนี้หากพบผู้เข้าเกณฑ์ต้องสอบสวนโรคอีก จะต้องตรวจวิเคราะห์เชื้อทั้งหมดในคราวเดียว เพื่อดูว่าป่วยเป็นโรคใด ส่วนผู้ป่วยรายนี้เป็นเคสแรกนับแต่เริ่มระบบ ด้านนพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า จากการตรวจหาเชื้ออื่น เพื่อเปรียบเทียบเชื้อของโรคในเขตร้อน 8 ชนิด ยืนยันได้แล้วว่า หญิงรายดังกล่าวป่วย ด้วยเชื้อมาลาเรีย ทั้งนี้ ตามมาตรฐานการตรวจที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ หากติดเชื้ออีโบลาจะเริ่มตรวจพบเชื้อเมื่อมีไข้ในวันที่ 3 และพบเชื้อได้แน่นอนเมื่อมีไข้วันที่ 5 จึงต้องตรวจซ้ำอีกครั้ง
+++ปัญหานักเรียนนักเลง พ.ต.อ.จารุต ศรุตยาพร ผกก.สน.ปทุมวัน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน ทั้งในและนอกเครื่องแบบ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหารสังกัด ม.พัน 1 รอ. 20 นาย ร่วมตรวจสอบ หลังรับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีนักศึกษาอาชีวะจับกลุ่มมั่วสุมกันบริเวณป้ายรถประจำทางหน้าห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง ไปตรวจสอบพบนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกวิทยาเขตอุเทนถวาย 26 คน กำลังจับกลุ่มรวมตัวกันที่บริเวณป้ายรถประจำทางหน้าห้างสรรพสินค้าดังกล่าว จึงแสดงตัวขอตรวจค้น พบว่านักศึกษากลุ่มดังกล่าวพกอาวุธมีด 26 เล่ม จึงควบคุมตัวทั้งหมดมาสอบสวนที่ สน.ปทุมวัน อ้างว่าเพื่อป้องกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะถูกนักเรียนสถาบันคู่อริมาทำร้าย ซึ่งไม่ใช่เหตุจำเป็นและหน้าที่ของนักเรียนเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้วางกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว เจ้าหน้าที่ทำประวัติ และให้พนักงานสอบสวนเปรียบเทียบปรับเจ้าของมีด 500 บาทในข้อหาพกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรก่อนประสานฝ่ายปกครองของสถาบัน และผู้ปกครองของนักศึกษาทั้งหมดมารับทราบก่อนรับตัวกลับไป