นายโรแบร์โต อาเซเวโด ผอ.องค์การการค้าโลก หรือ WTO แถลงเตือนประเทศต่างๆ เกี่ยวกับการสร้างกำแพงกีดกันการค้าว่า อาจเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งกำลังอยู่ในภาวะฟื้นตัวและมีแนวโน้มจะเปราะบางชัดเจนมากขึ้น หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสูงถึง 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อตอบโต้จีน กรณีขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ จุดประกายความหวาดกลัวการทำสงครามการค้าระหว่าง 2 มหาอำนาจของเศรษฐกิจโลก
นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังต้องการให้องค์กรระงับข้อพิพาท หรือ DSB ของ WTO ช่วยแก้ปัญหากรณีจีนละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ขณะที่จีนเตือนสหรัฐฯ ว่า ไม่กลัวสงครามการค้า เพราะจีนเตรียมตั้งกำแพงสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเช่นกัน
นายอาเซเวโด กล่าวว่า ได้กระตุ้นให้ประเทศสมาชิกหารือกลไกแก้ปัญหาเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาลุกลามบานปลาย ซึ่งจะไม่มีผู้ใดเป็นฝ่ายชนะ ทั้งยังจะทำให้ระบบการค้ามีเสถียรภาพลดลง โดยขอให้ทุกฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้น และจัดการหารือเร่งด่วน
ขณะที่ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส แถลงในวันสุดท้ายของการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป หรือ EU ว่า EU จะตอบโต้ภัยคุกคามจากสงครามการค้าของสหรัฐฯ โดยขอให้ประเทศสมาชิกร่วมเป็นหนึ่งเดียวกัน ปราศจากความอ่อนแอ เคารพกฎระเบียบของ WTO แต่จะต้องขอสงวนสิทธิในการตอบโต้ตามความเหมาะสม พร้อมกับปฏิเสธการเจรจาการค้าที่เอาปืนมาจ่อหัว ก่อนหน้านี้ คณะกรรมาธิการยุโรปได้ร่างมาตรการตอบโต้สหรัฐฯ เมื่อต้นเดือน อาทิ การตั้งกำแพงสินค้าประเภทถั่ว จักรยานยนต์ และยีนส์ผ้าฝ้าย หากสหรัฐฯ ดำเนินการตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจาก EU เช่นกัน (1045 F171)
CR:AFP, https://www.thenational