สรุปข่าว 19.35 น.
+++การตรวจสอบการทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ระหว่างปี 2551-2561 เป็นเงินกว่า 88 ล้านบาท นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่าขณะนี้สำนักนิติการ สำนักงานปลัด ศธ.ได้ทำการสรุปและเสนอโทษทางวินัย นางรจนา สินที นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ (ระดับ 8) สำนักส่งเสริมกิจการการศึกษา ของ สป.ศธ. อดีตผู้ดูแลกองทุนฯ เรียบร้อยแล้ว โดยเสนอให้ลงโทษวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งมีโทษ 2 คือไล่ออก หรือปลดออกจากราชการ ส่วนจะลงโทษสถานใดนั้น ยังไม่สามารถบอกได้ โดจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) สป. เพื่อมีมติร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง
+++ ด้าน นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการ ศธ. ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง การทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตระหว่าง ปี 2551-2561 จำนวน 88 ล้านบาท กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการสืบสวนฯ อยู่ระหว่างรวบรวมเอกสาร ซึ่งนโยบาย นพ.ธีระเกียรติ ต้องการให้ตรวจสอบกองทุนฯ นี้ทั้งระบบ ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบย้อนหลัง ตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนฯ อย่างเป็นทางการในปี 2543 ซึ่งเป็นช่วงที่ได้เงินประเดิมกองทุนฯ จำนวน 600 ล้านบาทจากสลากกินแบ่งรัฐบาล มีทั้งเอกสารที่เป็นบันทึกรายงานการประชุม การจัดทำบัญชีเบิกจ่ายในแต่ละปี แม้จะมีเอกสารส่วนหนึ่งที่ยังหาไม่เจอ แต่ทางคณะกรรมการสืบสวนฯ ได้ค้นพบเอกสารเพิ่มเติมมากขึ้นเรื่อย ๆ
+++ล่าสุดพบเอกสารการเงินที่เกี่ยวข้องกับปี 2551 และ ปี 2553 และยังพบว่าปี 2550 มีการทุจริตเพิ่มเติม แต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบและค้นหาเอกสารยืนยันจากเอกสารและข้อมูลที่พบทั้ง 3 ปี พบว่ามีตัวเลขเงินที่หายไปเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 30 ล้านบาท แต่ทางคณะกรรมการสืบสวนฯ ยังยืนยันไม่ได้ว่าตัวเลข 30 ล้านบาท ที่พบเป็นการทุจริตทั้งหมดหรือไม่
++++นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีปัญหาการจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าที่กำลังเป็นกระแสสังคม ลงวันที่ 23 มีนาคม 2561 เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเกิดความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวโดยเร่งด่วน โดยมี นายสุรพงษ์ เจียสกุล รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานคณะกรรมการฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน โดยให้ตรวจสอบประเด็นที่มีการกล่าวหา 4 ประเด็น ได้แก่ กรณีครอบครัวข้าราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ค้าขายวัคซีนปลอมให้กรมปศุสัตว์เป็นเวลาหลายสิบปี การนำวัคซีนที่ไม่มีคุณภาพไปฉีดให้สัตว์ ตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเกี่ยวข้องกับการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และ ใครเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมายนี้ โดยจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือมีการแจ้งเบาะแสงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องมาให้รายละเอียดเพื่อให้ได้ข้อสรุปข้อเท็จจริงโดยเร่งด่วนต่อไป
+++นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ประธานกรรมาธิการ(กมธ.)การสังคม กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงว่า กมธ.ไม่เห็นด้วยที่จะมีการจัดเก็บภาษี แต่สนับสนุนให้มีการนำสุนัขและแมวทุกตัวมาขึ้นทะเบียน .จึงได้เสนอร่างพ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรม และการจัดสวัสดิภาพสัตว์ ฉบับที่พ.ศ..2557 ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อประโยชน์ในการจัดสวัสดิภาพสัตว์ และความรับผิดชอบของเจ้าของสัตว์ รวมถึงการรักษาสภาวะความเป็นอยู่ที่เหมาะสมของสัตว์ และประชาชนในท้องถิ่น ให้ราชการส่วนท้องถิ่นมีหน้าที่และอำนาจออกข้อบัญญัติท้องถิ่นกำหนดให้เจ้าของสัตว์นำสัตว์เลี้ยงมาขึ้นทะเบียน เพื่อที่จะได้ทราบจำนวนของสัตว์เลี้ยง ทั้งนี้เพื่อวางมาตรการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
+++โดยในวันที่ 28 มี.ค.จะเปิดทำประชาพิจารณ์เ พื่อประกอบการนำเสนอร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว เพื่อนำเสนอต่อสนช. ซึ่งคาดว่ากฎหมายฉบับนี้จะสามารถบังคับใช้ในเดือนมิ.ย.-ก.ค. และหากร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ออกมาเจ้าของสัตว์ต้องนำสัตว์ไปขึ้นทะเบียน รวมทั้งสัตว์ที่อยู่เร่ร่อนขณะนี้จำนวน 1 ล้านตัว ซึ่งเวลานี้ไม่มีใครเป็นเจ้าของ โดยทางท้องถิ่นจะเข้าไปดูแลและนำไปขึ้นทะเบียน หากใครอยากจะนำไปเลี้ยงก็ต้องนำไปจดทะเบียนก่อน หากสัตว์ดังกล่าวไปกัดคนอื่นก็มีเจ้าของรับผิดชอบ ซึ่งจะทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นเวลานี้หมดไป
+++นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวภายหลังเข้าพบนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีว่า วันนี้หารือเรื่องการเชิญพรรคการเมืองมาพูดคุยในวันที่ 28 มี.ค. นี้ ในประเด็นที่ว่า พรรคการเมืองเก่าจะทำอะไรได้บ้าง หรือทำอะไรไม่ได้บ้าง ซึ่งเราก็ดูคำสั่ง คสช.ที่ 53/60 ที่ออกมา ว่าทำอะไรได้ หรือต้องปฏิบัติอย่างไร เป็นการคุยกันเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน ซึ่งนายวิษณุไม่ได้มอบหมายอะไรเป็นพิเศษ และไม่มีความกังวลใดๆ และพร้อมที่จะตอบคำถามฝ่ายพรรคการเมือง ย้ำว่า ทุกคำถามมีคำตอบ
+++ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรี และนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ระบุไม่ตรงกันในเรื่องใครเป็นผู้มีอำนาจกำหนดวันเลือกตั้งนั้น นายศุภชัย กล่าวว่า ต้องอยู่ที่ พ.ร.ป ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. เมื่อมีผลบังคับใช้ กกต. ต้องจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน150 วันตามกฎหมายระบุ ส่วนเรื่องที่นายกฯเชิญทุกฝ่ายมาหารือ นั้นก็เป็นเรื่องที่นอกเหนือจากรัฐธรรมนูญ ยอมรับว่า ได้หารือกันตลอดว่า จะมีเลือกตั้งในช่วงไหน จะกำหนดให้สั้นไป ยาวไปเดี๋ยวก็จะมีปัญหาเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบของแต่ละพรรค ส่วนจะทันในเดือน ก.พ. 62 หรือไม่นั้น ก็ต้องดูที่กฎหมายต่อไป ส่วนกรณีที่มีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความกฎหมายลูกว่าด้วย ส.ว. นั้น ตนเห็นว่า คงไม่มีผลอะไร
++++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงกว่า 4% ในวันนี้ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน ซึ่งส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ดัชนีนิกเกอิร่วงลง 974.13 จุด ปิดที่ 20,617.86 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค. 2560
++++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวลดลง 761.76 จุด ปิดวันนี้ที่ 30,309.29 จุด
+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปิดตลาดปรับตัวลง 4.34 จุด ที่ 1,794.21 จุด มูลค่าการซื้อขาย 50,683.47 ล้านบาท
+++หลังได้รับการประกันตัว จากศาลมณฑลทหารบก (มทบ.) ที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร อ.เมือง จ.ขอนแก่น มีคำสั่งเมื่อวันที่ 23 มีนาคม รับฟ้อง นายรังสิมันต์ โรม ในความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป จากกรณีจัดกิจกรรม “พูดเพื่อเสรีภาพรัฐธรรมนูญกับคนอีสาน” ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตั้งแต่ปี 2559 วงเงินประกันตัว 10,000 บาท พร้อมมีคำสั่งห้ามออกนอกประเทศ และห้ามจัดกิจกรรมยุยงปลุกปั่น กระด้างกระเดื้อง และนัดให้มาสอบคำให้การนัดแรกในวันที่ 7 พฤษภาคมนายรังสิมันต์ เปิดเผยภายหลังได้รับการปล่อยตัวว่า ยังคงยืนยันในการเป็นแกนนำพามวลชนเดินทางจาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ไปกองทัพบก ในวันที่ 24 มีนาคม เพื่อเรียกร้องให้ยุติสนับสนุนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามกำหนดการเดิมที่เคยประกาศไว้ แม้จะมีคำสั่งศาลห้ามไว้ก็ตาม
+++สื่อท้องถิ่นของเกาหลีใต้ว่าตำรวจได้จับกุมอดีตประธานาธิบดีลี เมียงบัค เมื่อวานนี้เพื่อสอบสวนในคดีทุจริต นับเป็นหนึ่งใน 4 อดีตประธานาธิบดีที่มีชีวิตอยู่ 4 คนของเกาหลีใต้ที่ถูกสอบสวนคดีอาญา เขาจะถูกดำเนินคดีในหลายข้อหา รวมถึงการรับสินบน การใช้อำนาจโดยมิชอบ การยักยอกทรัพย์และการเลี่ยงจ่ายภาษี คดีนี้หากศาลตัดสินว่ามีความผิด เขาจะถูกจำคุกมากถึง 45 ปี ด้านภาพข่าวทางโทรทัศน์ของเกาหลีใต้แสดงให้เห็นว่านายลี สวมเสื้อคลุมกันหนาวสีดำ ทับเสื้อเชิร์ตสีดำและเนคไท เดินออกจากบ้านของเขา จับมือทักทายกับอดีตคนใกล้ชิดหลายคนก่อนจะขึ้นรถยนต์คันหนึ่งที่ติดฟิล์มมืดทึบ จากนั้นมีรถตำรวจนำขบวนรถของเขาและคันอื่นๆมุ่งหน้าไปยังศูนย์กักขังเขตตะวันออกของกรุงโซล นายลีเขียนข้อความในแถลงการณ์ด้วยลายมือ พร้อมภาพถ่ายโพสต์ทางเฟซบุคของเขาว่าเขาจะไม่ใส่ร้ายคนอื่นๆ ทั้งหมดเป็นความผิดของเขาและรู้สึกเสียใจในเรื่องนี้มาก สื่อท้องถิ่นของเกาหลีใต้เพิ่มเติมว่านายลีจะถูกนำตัวไปเข้ารับการตรวจร่างกายก่อนจะมีการเปลี่ยนชุดนักโทษและนอนหลับอยู่ในห้องขังแคบๆเพียง 11 ตารางเมตร