ครูปรีชาสบายใจขึ้น หลังร้องขอความเป็นธรรมหลายหน่วยงาน ให้ศาลตัดสินใครเจ้าของสลากฯ

22 มีนาคม 2561, 15:18น.


หลังวันนี้นายปรีชา ใคร่ครวญ นางสาวรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น และทนายความเดินทางไปร้องขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับคดีสลากกินแบ่งรัฐบาล30ล้านบาทจากหลายหน่วยงาน และในช่วงบ่ายนี้ ได้เดินทางมาที่กองปราบปราบ เพื่อขอให้พนักงานสอบสวน สอบปากคำในฝ่ายตัวเองเพิ่มเติมในบางประเด็น  เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีแจ้งความเท็จเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับโทษทางอาญา รวมถึงขอสำเนาการบันทึกการจับกุม และจะให้ทนายความยื่นหนังสือขอคัดสำนวนคดีเพื่อนำไปให้กระทรวงยุติธรรม


นายปรีชา กล่าวว่า ขณะนี้รู้สึกสบายใจมากขึ้น หลังจากได้เดินทางไปร้องขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นการกระทำตามสิทธิที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ  ส่วนการแจ้งความเท็จที่ตัวเองตกเป็นผู้ต้องหานั้น ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าศาลจะตัดสิน และมองว่าแจ้งความเท็จได้อย่างไร ในเมื่อศาลแพ่งที่ตัวเองเป็นโจทก์ยื่นฟ้องร้องอีกฝ่ายยังไม่ได้มีการชี้ชัดว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลของใคร พร้อมปฏิเสธว่า ไม่เคยบอกว่าถูกเจ้าหน้าที่กองปราบปรามบังคับให้รับสารภาพ บอกเพียงแค่เคยถูกโน้มน้าวชักจูงใจให้รับสารภาพเท่านั้น


 


และในนี้จะเดินทางไปเยี่ยมนางสาวกนกพรรณ หมวกไสว  หรือ ฟ้า ที่ถูกศาลออกหมายจับในดำเนินคดีความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะรู้สึกเป็นห่วงและไม่กลัวว่านางสาวกนกพรรณจะให้การกับเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.)เกี่ยวกับคดีของตนเอง  โดยเมื่อเวลาประมาณ13.00น.เจ้าหน้าที่ปอท.นำตัวนางสาวกนกพรรณออกจากห้องคุมขังไปขออำนาจศาลอาญารัชดาฝากขังผัดแรก  ขณะนี้ศาลกำลังพิจาณาว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่


ด้านพันตำรวจเอกสุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวว่า นายปรีชาและทนายมาขอให้ตำรวจสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีก 2 ปาก เป็นพยานที่เคยสอบไปแล้ว 1 ราย และเป็นพยานใหม่ที่ยังไม่เคยสอบปากคำอีก 1 ราย ซึ่งประเด็นที่ร้องขอให้สอบเพิ่มนั้น ก็เคยสอบปากคำไปแล้ว แต่เมื่อร้องขอมาตำรวจก็ยินดี พร้อมให้ความเป็นธรรมกับฝ่ายผู้ต้องหา 


 


ส่วนที่นายปรีชาและนางสาวรัตนาเข้าร้องเรียนตามหน่วยงานต่างๆในวันนี้นั้น สามารถทำได้ตามสิทธิ หากรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ยืนยันว่าทางตำรวจไม่เคยข่มขู่ โน้มน้าวหรือบังคับให้ใครรับสารภาพแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามจะมีการตรวจสอบการให้สัมภาษณ์ของนายปรีชาก่อน ว่ามีถ้อยคำใดที่เข้าข่ายลักษณะหมิ่นประมาทหรือไม่  สำหรับการร้องขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)รับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ก็เป็นดุลยพินิจของหน่วยงาน แต่คงไม่กระทบกับสำนวนที่ตำรวจทำอยู่ และหากผลออกมาว่าทางดีเอสไอรับคดี ทางกองปราบก็จะส่งสำนวนทั้งหมดให้ดีเอสไอไปดำเนินการต่อ
ข่าวทั้งหมด

X