การลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา ตอน 13 นายพิพัฒน์ อาจมีแก้ว นายช่างสำนักโครงการฯ กล่าวว่า โครงการดังกล่าว มีความยาวทั้งสิ้น 5.4 กิโลเมตร มีความหนา 28 เซนติเมตร เส้นทางเริ่มจากอ.เมือง ไปสิ้นสุดที่อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ใช้งบประมาณ 1,000 กว่าล้านบาท ปัจจุบันแผนงานคืบหน้าไปแล้วร้อยละ 55 เร็วกว่าที่วางไว้ถึงร้อยละ 10 โดยตลอดทาง 5 กิโลเมตรกว่าเป็นพื้นที่เรียบ 2 ทาง คาดว่า จะแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน ปีนี้ จากนั้นต้องรอขั้นตอนการเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนในระบบงานต่อไป จึงจะเปิดใช้เป็นทางการได้ สำหรับสิ่งที่เป็นอุปสรรคในการก่อสร้างทางหลวงฯ ตอน 13 นี้ คือ การขออนุญาตเข้าไปใช้พื้นที่ป่าไม้และการระเบิดภูเขา
ด้านนายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า แม้โครงการก่อสร้างทางหลวงฯ ตอน 13 ยังติดปัญหาเรื่องการเข้าไปใช้พื้นที่ป่าอยู่ แต่ยืนยันว่ากำหนดการแล้วเสร็จยังเป็นไปตามเดิม โดยวันนี้นายธานินทร์ ได้พาสื่อมวลชน สังเกตการณ์การตรวจวัดสภาพความเรียบของผิวทางถนนตอน 13 ที่แล้วเสร็จบางส่วนด้วย โดยใช้เครื่องมือตรวจวัดทุกๆ 100 เมตร เพื่อหาค่าดัชนีความขรุขระสากล หรือ ไออาร์ไอ หลังตรวจวัดระบุว่า ค่าไออาร์ไอ อยู่ที่ 1.66 ใกล้เคียงกับพื้นผิวถนนของสหรัฐฯ ที่อยู่ที่ 1.5 ซึ่งยิ่งค่าน้อย แปลว่า ผิวถนนเรียบ มีคุณภาพและปลอดภัยต่อผู้สัญจร โดยข้อกำหนดทั่วไป ต้องมีค่าไม่เกิน 2.5
ทั้งนี้ ถ้าหลังสร้างเสร็จแล้ว พบว่า ค่าเฉลี่ยมากกว่า 2.5 ก็ต้องทุบทิ้งแล้วให้ผู้รับจ้างสร้างใหม่ สำหรับผิวถนนของไทยส่วนใหญ่อยู่ที่ 2.0-2.3 กรมทางหลวง กำลังพยายามปรับปรุงให้ค่าเฉลี่ยดีขึ้นกว่านี้ เพื่อยกระดับคุณภาพถนนให้ปลอดภัย ขณะนี้ กำลังจัดหาเครื่องมือตรวจวัดค่าไออาร์ไอ เพิ่มอีก 18 เครื่อง เพื่อนำไปใช้กับการก่อสร้างถนนทุกโครงการทั่วประเทศ
ผู้สื่อข่าว: ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร