วิปสนช.ส่งร่างพรป.สส.ให้นายกฯแล้ว เสนอชื่อสนช.ตรวจสอบประวัติว่าที่ กสทช.ชุดใหม่

20 มีนาคม 2561, 18:38น.


หลังการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ วิปสนช. นายแพทย์ เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกวิปสนช. เปิดเผยว่า  สนช.ไม่ได้รู้สึกติดใจว่าทั้งสองร่างจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ โดยร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ได้ส่งไปถึงนายกรัฐมนตรีแล้วตั้งแต่เช้าวันจันทร์ สนช.จึงถือว่าจบหน้าที่ จากนี้จะมีเพียงนายกฯคนเดียวที่สามารถยื่นร่างดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญตีตีความได้ ส่วนตัวมองว่านายกฯคงไม่ส่งให้ตีความ แต่คงให้ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายไปดู



ส่วนหลังกฎหมายประกาศใช้ก็เชื่อว่าจะไม่มีผู้ยื่นร่างให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ หรือถ้ามีอาจเป็นผู้ไม่ประสงค์ดีและเชื่อมั่นว่าถ้ายื่นให้ตีความก็จะไม่มีปัญหาแน่นอน ส่วนร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. สนช.ต้องส่งเพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจ อีกทั้งมองว่าร่างดังกล่าวก็ไม่กระทบกับโรดแม็ปจึงได้ส่งไปให้ตีความ มั่นใจว่าไม่มีอะไรในร่างดังกล่าวให้หนักใจ



สำหรับ สัปดาห์นี้จะมีประชุมสนช. 2 วัน คือวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ โดยวันพฤหัสบดีมีเรื่องด่วนสำคัญสองเรื่อง เรื่องแรกคือ การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลขออนุมัติงบเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 1 แสนล้านบาท และเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับจ่ายเป็นเบี้ยหวัด เป็นเงินบำเหน็จบำนาญ และเป็นค่ารักษาพยาบาลให้แก่ข้าราชการอีกประมาณ 5 หมื่นล้านบาท รวมแล้วขออนุมัติงบเพิ่มทั้งสิ้น 1.5 แสนล้านบาท



สาเหตุที่ต้องเร่งขออนุมัติ เพราะจำเป็นต้องหางบมากระตุ้นเศรษฐกิจระดับบนให้ไปสู่ระดับล่างให้มากขึ้น และสนช.เองไม่สามารถตัดงบออกได้อยู่แล้ว และทุกปีก็มีการพิจารณาอนุมัติเพิ่มงบในลักษณะนี้มาทุกปี สำหรับการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้จะเป็นการพิจารณารวดเดียว 3 วาระภายในวันเดียว โดยกรรมาธิการเต็มสภาที่สนช.ทุกคนมีสิทธิอภิปรายได้เต็มที่ ซึ่งคาดว่าคงมีสนช.หลายคนซักถาม ส่วนรัฐบาลได้ส่งรองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจมาเป็นผู้ชี้แจงรายละเอียด ยืนยันว่างบที่อนุมัติลงไปไม่ได้เอาไปใช้หาเสียงให้รัฐบาลคสช.



ส่วนเรื่องที่สองคือ การพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. โดยวันพฤหัสบดีนี้จะเป็นเพียงการพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯจำนวนหนึ่งที่ประกอบด้วยสมาชิกสนช.ประมาณ 17 คน ขึ้นมาทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และจริยธรรมของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นกรรมการกสทช. ซึ่งคณะกรรมาธิการฯมีเวลาตรวจสอบ 27 วัน ก่อนส่งผลรายงานมาให้ที่ประชุมสนช.



จากนั้นวันที่ 19 เมษายน 2561 สนช.จะทำการลงมติเลือกบุคคลที่ควรได้รับการเสนอชื่อให้เป็นกรรมการกสทช.ให้เหลือเพียง 7 คน จากรายชื่อจำนวน 14 คน จาก 7 ด้านที่สนช.ได้รับมาในปัจจุบัน โดยวันที่ 19 เมษายนยังเป็นวันเดียวกับที่สนช.จะต้องลงมติเลือกบุคคลที่ควรได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน และบุคคลที่ควรได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)ด้วย



ส่วนในวันศุกร์จะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเงินทดแทน ในวาระขั้นรับหลักการ ซึ่งร่างนี้ถูกเสนอโดยคณะรัฐมนตรี(ครม.) เป็นการแก้ไขกฎหมายเพิ่มเติม เพื่อปรับเปลี่ยนเกี่ยวกับเงินทดแทนในหลายประเด็น พร้อมทั้งวันศุกร์จะมีการรายงานผลสิทธิมนุษยชนประจำปีของประเทศไทยด้วย



 



 



ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร ผสข.

ข่าวทั้งหมด

X